เอซุส จัดพรีวิวรอบสื่อให้สัมผัส ZenFone 3 MAX Series

บริษัท เอซุสเทค (คอมพิวเตอร์) ประเทศไทย จำกัด เปิดรอบพรีวิวให้นักข่าวสายโมบายล์ไอทีได้สัมผัสประสิทธิภาพสมาร์ทโฟน รุ่นล่าสุด ZenFone3-MAX Series หน้าจอ 5.5” และ 5.2” ในราคาสบายๆ แต่ประสิทธิภาพขั้นเทพ เอาใจคนที่มีไลฟ์สไตล์ใช้ชีวิตนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว คนทีรักการถ่ายรูป หรือแม้แต่ใช้ในงานประจำ

zenfone-3-max-07
มร. จอห์น เชน ผู้จัดการฝ่ายผลิภัณฑ์เอซุส

มร. จอห์น เชน ผู้จัดการฝ่ายผลิภัณฑ์ กล่าวว่า “บริษั เอซุสเทค ประเทศไต้หวัน ได้ออกแบบ ZenFone3-Max Series ออกมาเพื่อตอบโจทย์ ลูกค้าคนไทยที่ใช้ชีวิตนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ หรือกลุ่มคนที่รักการถ่ายรูปหรือชอบท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ ไกลจากตัวเมือง หรือแม้แต่กระทั่งคนในอาชีพที่ต้องพึ่งพาการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนหรือมือถือ อย่างผู้สื่อข่าวที่ปัจจุบันมักจะใช้กล้องมือถือเพื่อการถ่ายรูปและบันทึกเสียงในการเผยแพร่ข่าวมากยิ่งขึ้น หรือผู้ที่มีอาชีพที่ต้องปฎิบัติงานนอกพื้นที่ไกลๆและหาที่ชาร์ตแบตเตอรี่ค่อนข้างลำบากหรือต้องพกพาแบตเตอรี่สำรองให้วุ่นวาย และปัญหาที่เรามักพบในอันดับต้นๆ คือเรื่องของแบตเตอรี่ที่มักจะหมดอย่างรวดเร็ว เมื่อมีการใช้งานต่อเนื่องตลอดเวลา ดังนั้นทางเอซุส ได้ตระหนักถึงจุดนี้ดี จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่ ที่มีการทดสอบแล้วว่าใน 4100mAh สามารถอยู่ได้นานถึง 38 วันในโหมดสแตนด์บาย และพูดคุยได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 17 ชั่วโมงในระบบ 3G เล่นเว็บได้นานถึง 19 ชม. ฟังเพลงต่อเนื่องได้ยาวนานถือง 72ชม.(2วัน)
มร.จอห์น เชน กล่าวเสริม “สิ่งสำคัญที่สุดที่น่าทึ่งในประสิทธิภาพของแบตรุ่นนี้คือ สามารถเป็นแบตเตอรี่สำรองให้แก่คนรอบข้างและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นได้ ซึ่งเซนโฟนทรี-แมกซ์รุ่นนี้ ได้แถมสาย OTT มากับตัวเครื่องด้วย เพียงแค่ใช้ เซนโฟน3-แมกซ์ แทนที่แบตเตอรี่สำรอง ก็สามารถชาร์จมือถือเครื่องอื่นๆ ได้อย่างสบายไม่ยุ่งยาก นอกจากนี้แล้ว เซนโฟนยังพัฒนาเทคโนโลยีของแบตเตอรี่ ให้สามารถยืดระยะเวลาของแบตเตอรี่ได้ยาวนานจนถึง 30ชม. แม้เหลือแบตเพียงแค่ 10% ในโหมด Super Saving

“ด้านประสิทธิภาพทางด้านกล้องนั้น ต้องบอกว่าเอซุส ZenFone3-MAX เป็นที่สุดยอดของการถ่ายภาพในเวลานี้ ด้วยเทคโนโลยี Tritech Autofocus เอกสิทธิ์เฉพาะของเอซุส รายแรกของโลกสมาร์ทโฟน ที่ทีมวิศวกรของเราได้ผสมผสานเทคโนโลยีการโฟกัสด้วยเลเซอร์ Phase Detection และออโต้โฟกัสต่อเนื่อง ส่งผลให้การโฟกัสที่ชัดเจนด้วยความเร็วเพียง 0.03 วินาที แม้ในสภาวะที่ต่างกัน ละเอียดถึง 16ล้านพิกเซล พร้อม PixMaster ที่สามารถจับภาพด้วยความละเอียดสูง ปราศจากความหน่วงของชัตเตอร์ กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8ล้านพิกเซล ที่ช่วยให้การถ่ายภาพเซลฟี่สวยอย่างลงตัวและง่ายที่สุด ตลอดจนกล้องวิดิโอที่มีระบบกันสั่น (EIS) ถึง 3 แกน เพื่อให้จับกล้องได้มั่นคงมากขึ้น”

มร. จอห์น เชน กล่าวเพิ่มเติม “ในส่วนของดีไซน์ การออกแบบนั้น เอซุสได้มองว่า วิถีการดำเนินชีวิตในเนวเซนนั้น เน้นความเรียบง่ายในการใช้ชีวิตแต่มีคุณภาพมากที่สุด ดังนั้น รูปลักษณ์ของเซนโฟน-แมกซ์ ซี่รี่ย์ นี้จึงเน้านความเรียบง่าย แต่มีความลงตัวและเหมาะมือแก่ผู้ใช้ นอกจากนี้เรายังมองถึงรายละเอียดในแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่ในครื่องด้วยการปรับให้ตัวหนังสือใหญ่ขึ้น ง่ายต่อการค้นหาหรือแช็ทสนทนา ทั้งยังมี Kid Mode ที่ป้องกันเด็กเล็กพลั้งเผลอกดหรือลบข้อมูลสำคัญของผู้ใช้ได้ โดยให้เด็กเล็กเพลิดเพลินกับเกมที่เล่นโดยไม่สามารถกดเข้าไปที่แอพพลิเคชั่นอื่นได้ โดยเจ้าของเครื่องสามารถตั้งค่าเองได้ ตลอดจนแอพพลิเคชั่น ASUS Service ที่ให้ลูกค้าสอบถามรายละเอียดข้อสงสัยและการบริการผ่านแอพพลิเคชั่นนี้ได้

เซนโฟน3-แมกซ์ ซี่รี่ย์นี้ มี 2รุ่นด้วยกันคือ 5.5 นิ้ว ราคา 7,990.-บาท และ 5.2 นิ้ว ราคา 5,990.-บาท ซึ่งจะวางตลาดในปลายเดือนมกราคมนี้” มร.จอห์น กล่าวสรุป

ติดตามพรีวิว ZenFone 3 Max ได้ที่นี่ 

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here