Tips

ขออนุญาติพาคุณผู้อ่านย้อนกลับไป สมัยที่ยังใช้งานคอมพิวเตอร์ยุคแรกๆ ที่ยังไม่มีเมาส์ไว้ใช้งานนะครับ การรันคำสั่งต่างๆ จะต้องทำผ่านเมนูเช่นเดียวกับในปัจจุบัน แต่แทนที่จะใช้เมาส์คลิก กับจะกดปุ่ม Alt เพื่อเรียกเมนูแต่ละเมนูออกมา จากนั้นจึงกดปุ่มลูกศรเพื่อเลือกเมนูตามที่ต้องการ หรือจะกดปุ่มที่เป็นตัวแรกของคำสั่ง หรือตัวอักษรประจำคำสั่งในเมนู

เรื่องการออกแบบคีย์บอร์ดนั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ผมเน้นย้ำกับคนที่มาขอคำปรึกษาในเรื่องการเลือกซื้อโน้ตบุ๊กว่า นอกจากดูสเปกแล้ว ควรจะดูดีไซน์ และคีย์บอร์ดว่าพิมพ์ถนัดไหม เลย์เอาต์ถูกต้องตามที่เราเคยชินไหม ไม่อย่างนั้นเราจะได้เจอคีย์บอร์ดเลย์เอาต์ประหลาดๆ ได้

ถือว่าเป็นคำสั่งลัดที่มีประโยชน์ดีมาก แต่ก็ต้องใช้อย่างถูกที่ถูกเวลาด้วย บ่อยครั้งที่มันมาผิดที่ผิดเวลาอยู่เหมือนกัน โดยคำสั่ง Ctrl + Scrolling นี้จะเป็น ชอร์ตคัตที่ใช้ซูมหน้าจอเข้าออก โดยการกดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ แล้วเลื่อน Scrolling Wheel ของเมาส์เข้าออกเพื่อซูมเข้าซูมออก

หากเป็นคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าๆ คงไม่มีปัญหาเรื่องพวกนี้ แต่เมื่อคอมพิวเตอร์ได้พัฒนาขึ้น อยากให้ผู้ใช้งานสะดวกขึ้น จึงได้เพิ่มเติมสิ่งที่เรียกว่า Multimedia Key มาเป็น ชอร์ตคัตเพื่อเรียกโปรแกรม ปรับเพิ่มลดเสียง ควบคุมการเล่นเพลงต่างๆ เอาไว้บนคีย์บอร์ด ซึ่งบางครั้งก็ทำเป็นปุ่มแยกมา แต่รุ่นใหม่ๆ จะเห็นว่ามันถูกรวมมาอยู่ในกลุ่มของปุ่ม F1-F12 กันแล้ว

เคยไหมที่พิมพ์รหัสผ่าน แล้วไม่ผ่านสักที ทั้งๆ ที่มั่นใจมากว่าพิมพ์รหัสผ่านถูกต้องตามตัวอักษรที่ตั้งไว้ 100% ถ้าลองสังเกตุดู ปุ่ม Shift ที่เราใช้งานกันบ่อยๆ เพื่อยกแคร่พิมพ์ตัวอักษรด้านบนแป้นในภาษาไทย หรือพิมพ์ตัวพิมพ์ใหญ่ในภาษาอังกฤษ จะอยู่ใกล้กับปุ่ม Caps Lock หรือบางครั้งเราจำเป็นต้องใช้ปุ่ม Caps Lock แล้วลืมปลดล็อคออกก็มี โดยเฉพาะ

อันที่สองนี่หลายๆ คนก็อาจจะเจอกันบ่อยๆ เหมือนกัน เนื่องจากคนออกแบบก็ออกแบบมาให้ใช้งานสะดวกมาก เพราะปุ่มทั้ง 3 ปุ่มอยู่ใกล้ และเรียงลำดับกันเลย นั่นคือ X สำหรับตัด C สำหรับก็อปปี้ และ V สำหรับวางหรือแปะ

เรื่องเล็กๆ ที่อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ กับปุ่มอุปกรณ์เพียงแค่ไม่กี่ปุ่มที่บังเอิญกดพร้อมกัน ไม่ว่าจะด้วยความผิดพลาดจากการกด หรือบังเอิญไปโดนโดยไม่ตั้งใจ ซ้ำร้ายกับเรื่องราวของความเคยชินที่อาจจะทำให้หลายๆ ต้องถึงกับกุมขมับกันมาแล้ว เพราะข้อมูลสำคัญมากๆ ในฉบับนี้เราจะมาพูด ชอร์ตคัต ทางลัดสุ่ความหายนะกัน

รู้จักเว็บแปลงไฟล์กันมาเยอะแล้ว พี่มิ้งค์ขอแถมด้วยเว็บแบ่งไฟล์ PDF ตัวอย่างเช่น ถ้าน้องๆ ได้รับไฟล์เอกสารในรูปแบบ PDF จำนวน 12 หน้ามาทางเมล์ ถ้าต้องการทำให้จากไฟล์ PDF จำนวน 12 หน้า ออกมาเป็นหน้าละไฟล์จำนวน 12 ไฟล์ ก็แค่เปิดเว็บ

ว่ากันมาหลายเว็บแล้วส่วนใหญ่ก็จะเป็นบริการแปลงไฟล์แนวบันเทิง หรือไม่ก็ไฟล์เอกสาร เว็บนี้มาแปลกหน่อย เพราะเป็นการแปลงไฟล์รูปประเภท .png ไปเป็นไฟล์ไอคอน .ico สำหรับคนที่อยากสร้างไอคอนไว้ใช้เอง จุดเด่นคือรวดเร็วและสามารถนำรูปที่ได้ไปใช้เป็นไอคอนตามโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ได้เลย เวลาเข้าหน้าเว็บก็ไม่มีอะไรมากมาย เพราะมีแค่หน้าต่างให้เราคลิกเลือกไฟล์รูปที่จะเอามาทำ

ไฟล์ PDF นับเป็นไฟล์อีกชนิดหนึ่งที่เราใช้กันอยู่เป็นประจำ หลายครั้งที่เราได้มาก็อยากจะแปลงเป็น Word เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์งานใหม่ หลายคนใช้วิธีก๊อบปี้แล้วนำมา Paste ลงในเอกสาร เพี้ยนบ้างไม่เพี้ยนบ้างตามแต่บุญแต่กรรม เว็บนี้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหานี้ โดยสามารถแปลงไฟล์ pdf ไปเป็น Word ภายใน 1 คลิก จุดเด่นสำคัญของเว็บนี้คือแปลงไฟล์ PDF ไปเป็น Word ได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งอักขระพิเศษและสัญลักษณ์ต่างๆ