ปัจจุบัน แบตเตอรี่ที่เราใช้กันใน Smartphone , Power Bank หรือแม้ในรถยนต์ EV ส่วนใหญ่คือแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้แร่โลหะหนักในการผลิตแบต และนั่นทำให้เกิดปัญหาทางสิ่งแวดล้อมทั้งในดิน น้ำ อากาศ รวมทั้งเหมืองบางแห่ง ยังมีการทำเหมืองแบบผิดจรรยาบรรณมนุษย์ และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาระบบทางเดินหายใจของชุมชนที่อยู่ใกล้เหมืองอีกด้วย
.
แต่เรื่องนี้ดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยความต้องการใช้งานแบตเตอรี่ที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกับรถยนต์ EV ที่กำลังเป็นเทรนด์ และหลายคนมองว่าเป็นรถยนต์รักษ์โลก แต่เบื้องหลังคือการทำเหมืองแบตที่สร้างผลกระทบอย่างมาก และตอนนี้แร่ที่ใช้ทำแบตลิเธียมไอออนก็มีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้นักวิจัยทั่วโลกพยายามที่จะสร้างแบตแบบใหม่ขึ้นมาโดยมีผลต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
.
หนึ่งในนั้นคือ Bemp Research Corp ซึ่งได้ใช้ Carbonized Hemp หรือส่วนประกอบคาร์บอนในกัญชง เพื่อใช้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม-ซัลเฟอร์ ที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่า น้ำหนักเบากว่า เก็บประจุไฟได้มากกว่า ชาร์จได้มากกว่า ปลอดภัยเพราะติดไฟยากกว่า และสามารถนำมารีไซเคิลได้คุ้มกว่า
.
ถามว่ามีประสิทธิดีกว่ายังไง โดยหากแบตลิเธียมไอออนสามารถทำให้รถ EV วิ่งได้ 500 กิโลเมตร ในขนาดที่เท่ากัน แบตเตอรี่ลิเธียม-ซัลเฟอร์ อาจทำให้วิ่งได้ไกลกว่าถึงเท่าตัวครับ แต่ในความเป็นจริงแล้ว แบตเตอรี่ลิเธียม-ซัลเฟอร์ ไม่ใช่เรื่องใหม่นะ มีมานานแล้วแหละ แต่ที่เราไม่ค่อยพบเจอก็เพราะว่ามันยังไม่ถูกนำใช้จริงใช้เชิงพาณิชย์ ซึ่งส่วนใหญ่ยังอยูในขั้นตอนการศึกษาและพัฒนา
.
โดย Carbonized Hemp ก็เป็นหนึ่งในการค้นพบใหม่ของ Bemp Research Corp และจากข้อมูลที่บริษัทให้สัมภาษณ์กับสื่อ เขาบอกว่าแบตเตอรี่สามารถชาร์จเต็มได้ในเวลา 20 นาทีเท่านั้น และแบตจะมีอายุการใช้งานมากถึง 1 แสนไมล์ หรือประมาณ 160,000 กิโลเมตร ด้วยการใช้การชาร์จแบบ Fast Charge และอายุการใช้งานจะมากขึ้น หากใช้การชาร์จแบบปกติ ซึ่งบริษัทตั้งใจจะผลิตได้ให้ได้จำนวนมากในปี 2569 หรือประมาณอีก 4 ปีเศษ ซึ่งเราก็ต้องรอดูต่อไปครับ
.
ที่มาข้อมูล
