ไม่ยากเลยสักนิด หากลืมของใน Uber ควรทำอย่างไรให้มีโอกาสได้คืน

โทรศัพท์มือถือ หนังสือเดินทาง เครื่องประดับ กระเป๋าถือ และ ถุงใส่ของจับจ่ายใช้สอย สิ่งของยอดฮิตที่ลืมแล้วลืมอีกในรถบริการ หากลืมของไว้ใน Uber แล้วต้องทำอย่างไร ? มาดูวิธีติดต่อเอาของกลับคืนกัน

เพราะความสะดวกสบายในการใช้บริการร่วมเดินทางกับ Uber ทำให้ผู้โดยสารสนุก เพลิดเพลิน เสมือนมีเพื่อนคนสนิทมาขับรถพาคุณไปส่งยังที่หมายได้อย่างปลอดภัย จนอาจทำให้คุณบางคนเผลอเลอจนลืมอะไรไปบางอย่าง…ไม่ได้ลืมจ่ายเงินหรือลืมแจกดาวให้กับพี่ผู้ร่วมขับแต่อย่างใด แต่เป็นการลืมของส่วนตัวไว้บนรถไว้โดยบังเอิญ


จากสถิติการลืมของบนบริการร่วมขับของ Uber ในประเทศไทย พบว่าโทรศัพท์มือถือครองตำแหน่งไอเท็มยอดฮิตที่ผู้โดยสารลืมเป็นประจำ ตามมาด้วยหนังสือเดินทาง เครื่องประดับ กระเป๋าถือ และถุงใส่ของจับจ่ายใช้สอย

ส่วนในโซนเอเชียและแปซิฟิกใกล้ๆ บ้านเรา พบว่ามีการลืมของกันอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน โดยประเทศในภูมิภาคนี้ที่มีการลืมของกับ Uber มากที่สุดคือ อินเดีย ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ตามลำดับ และวันที่มีคนลืมของมากที่สุดคือวันเสาร์ ส่วนเวลาที่มีการแจ้งของหายมากที่สุดคือบ่ายสองโมง

นอกจากนี้ ผู้โดยสารในสหรัฐอเมริกาก็ลืมของต่างๆ สารพัดไว้หลังจากใช้บริการร่วมเดินทางของ Uber เช่นกัน ซึ่งมีตั้งแต่แหวนเพชร เสื้อกันกระสุน ซีดีเพลง ไปจนถึงของสุดเซอร์ไพร์สอย่างใบหย่า! โดยสิ่งของยอดฮิตที่ลืมแล้วลืมอีก หายแล้วหายอีกทั้งหมด 10 อันดับ คือโทรศัพท์มือถือ (เหมือนที่ลืมมากเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทย และอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลก) กระเป๋าสตางค์ กุญแจ เสื้อผ้า แว่นตา กระเป๋า กระเป๋าสะพายหลัง บุหรี่ไฟฟ้า หูฟัง และบัตรประชาชน ตามลำดับ และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า (ยังคง) มีการรายงานของหายผ่านแอพ Uber มากกว่าหนึ่งพันชิ้นต่อสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง

หากลืมของไว้ในรถบริการร่วมเดินทาง Uber แล้วต้องทำอย่างไร?

Uber ขอแนะนำให้ผู้โดยสารรีบติดต่อกับผู้ร่วมขับทันทีที่นึกขึ้นได้และแจ้งให้เขาทราบว่าคุณลืมของเอาไว้บนรถ โดยขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณดำเนินการได้ในแอพพลิเคชั่นของ Uber คือ

1. กดเข้าไปที่เมนูเพื่อเลือก “การเดินทาง”
2. เลือก “การเดินทางที่คุณลืมของไว้ในรถ”
3. บนแอพจะขึ้นหน้า “รายละเอียดการเดินทาง” ให้เลือกที่ “ฉันทำของหาย”

4. จากนั้นเลือก “ติดต่อ Uber เกี่ยวกับของที่ทำหาย”
5. อ่านข้อความที่ปรากฏ และใส่รายละเอียดเกี่ยวกับของที่ลืมไว้

ง่ายๆ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถติดตามของหายได้ (ทั้งนี้ Uber ประเทศไทยยังไม่มีนโยบายในการจัดส่งของที่ผู้โดยสารลืมไว้กลับไปให้เจ้าของ)

ถ้าจะให้ดีที่สุด คุณควรตรวจสอบให้ถี่ถ้วนทุกครั้งว่าไม่ลืมของมีค่าใดๆ ไว้ในรถก่อนจะโบกมืออำลาผู้ร่วมขับและลงจากรถไป สุดท้ายนี้ ขอให้คุณโชคดี มีความสุขในการเดินทางทุกๆ วัน