รีวิว : TP-Link Archer C50 อัพเกรดประสิทธิภาพ Wi-Fi อีกระดับ ในงบย่อมเยา

อีกทางเลือกของการเพิ่มประสิทธิภาพ Wi-Fi ภายในบ้าน พบกับ TP-Link Archer C50 อุปกรณ์ Wireless Dual Band Router รุ่นย่อมเยา ที่มาพร้อมความเร็วระดับ AC1200 แบ่งเป็น 867 Mbps สำหรับความถี่ 5GHz กับ 300 Mbps สำหรับความถี่ 2.4GHz

หลังการปรับโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ของ TP-Link ที่ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์อุปกรณ์เน็ตเวิร์คใหม่ จากสีดำมาเป็นสีขาวล้วน ดูสบายตาและเป็นมิตรขึ้น สำหรับ TP-Link Archer C50 อุปกรณ์ Wireless Dual Band Router ตัวนี้ ก็มาพร้อมรูปแบบการใช้งานใหม่ สามารถควบคุมการทำงานทั้งหมดผ่านแอพฯ ได้เลย ไม่ต้องเข้าเว็บเบราว์เซอร์ให้เสียเวลาอีกต่อไป และเพื่อเป็นการต้อนรับการใช้งานนี้ ตัวเครื่องเลยมาพร้อมดีไซน์ขาวล้วน พร้อมเพิ่มความโค้งมนยิ่งขึ้น และเพิ่มความยาวของเสาอากาศทั้ง 4 เสา เพื่อให้กระจายสัญญาณ Wi-Fi ได้ดีกว่าเดิม ในมาตรฐาน 802.11 ac ที่ความเร็วสูงถึง AC1200 แบ่งเป็น 867 Mbps สำหรับความถี่ 5GHz กับ 300 Mbps สำหรับความถี่ 2.4GHz ขณะเดียวกันกลับมีราคาที่ไม่สูงตาม อยู่ในระดับที่ใคร ๆ ก็เอื้อมถึง ส่วนประสิทธิภาพจะเป็นไงมาดูกัน

สเปก TP-Link Archer C50 (ดูรายละเอียดได้ที่นี้)

  • TP-LINK Archer C50 เป็น Wireless Dual Band Router ที่มาพร้อมความเร็ว AC 1200 หรือ 1.2 Gbps แบ่งเป็น 867 Mbps สำหรับความถี่ 5GHz กับ 300 Mbps สำหรับความถี่ 2.4GHz
  • เสาอากาศ 5 dBi ส่งสัญญาณแบบรอบทิศทาง 4 ต้น
  • พอร์ตเชื่อมต่อ LAN x 4, WAN x 1 ความเร็ว 10/100 Mbps
  • ปุ่ม Reset Button, WPS/Wi-Fi On/Off Button และ Power On/Off Button
  • ขนาดตัวเครื่อง 229.87 x 144.19 x 36.85 mm
  • รองรับ Dynamic IP/Static IP/PPPoE/BigPond/ /L2TP(Dual Access) /PPTP(Dual Access)
  • โหมดควบคุม Access Control, Local Management และ Remote Management
  • ระบบความปลอดภัยมี DoS, SPI Firewall, IP Address Filter เข้ารหัสด้วย 64/128-bit WEP, WPA / WPA2, WPA-PSK/ WPA2-PSK encryption
  • รองรับการใช้งานร่วมกับกับเน็ตไฟเบอร์เคเบิ้ล
  • รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Facebook Check In
  • รองรับการทำงานผ่านแอพฯ Tether

แกะกล่อง

กล่องมาในโทนสีเขียวอมฟ้า ขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว ส่วนอุปกรณ์ในกล่องก็ประกอบไปด้วย TP-Link Archer C50, สาย LAN (CAT.5) x 1, ชุดไฟเลี้ยง และ ชุดคู่มือ

วัสดุและดีไซน์

สัมผัสแรกเลยคือ ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่กว่าที่คิด แต่ออกแบน ๆ กว้าง ๆ ไม่หนา วัสดุยังเป็นพลาสติกเช่นเคย ส่วนดีไซน์ด้านบนมีความโค้งมนจนตัวเครื่องเป็นวงรี และมาพร้อมสีขาวตามการปรับโฉมแบรนด์ของ TP-Link

จุดที่เด็ดสุดเลยก็ไม่พ้นเสาสัญญาณทั้ง 4 ต้น ที่ยาวพอควร สามารถส่งสัญญาณได้ไกลถึง 5 dBi

ส่วนด้านล่างก็อุดมไปด้วยช่องระบายอากาศนับไม่ถ้วน มีรูสำหรับติดตั้งแบบแขวนผนังได้

ตัวเครื่องสภาพกางเสา เตรียมใช้งาน

ด้านหลัง ประกอบไปด้วยพอร์ต LAN ทั้งหมด 4 ช่อง กับ พอร์ต WAN 1 ช่อง และช่องต่อไฟเลี้ยง ส่วนปุ่มก็มีทั้งหมด 3 ปุ่ม อาทิ ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ปุ่มเปิด/ปิด Wi-Fi และปุ่ม Reset

ด้านข้างตัวเครื่อง มีการเล่นลวดลายเป็นระลอกคลื่นเล็กน้อย

และสุดท้ายบริเวณด้านบน มีโลโก้ TP-Link ชัดเจน และตำแหน่งไฟ LED บอกสถานะ

ประสิทธิภาพ

สำหรับการเทสประสิทธิภาพครั้งนี้ จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 อย่างอาทิ ความเร็ว ความหนาแน่น ประสิทธิภาพการปล่อยสัญญาณ และ ระยะการปล่อยสัญญาณ

หากติดตั้งเครื่องอะไรเรียบร้อย พร้อมเปิดใช้ Wi-Fi ทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz ก็จะขึ้นไฟ LED เกือบหมดดังภาพ (ยกเว้น Guest Wi-Fi ที่ยังไม่ได้เปิด)

ในการใช้งานครั้งแรก ให้โหลดแอพฯ Tether มาก่อนเลย (ใช้ได้ทั้ง iOS และ Android) เพื่อควบคุมการทำงานทั้งหมดในแอพฯ เดียว ตามแนวคิดใหม่ของ TP-Link ที่ต้องการให้ผู้ใช้ทั่วไป สามารถตั้งค่าการใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่เข้าถึงยากแบบเหมือนก่อน และสำหรับ TP-Link Archer C50 ก็มีฟีเจอร์สำหรับ Wireless Router พื้นฐานให้ครบครัน อาทิ Access Control : Parental Control, Local Management Control, Host List, Access Schedule และ Rule Management

เทสความหนาแน่นของสัญญาณขณะอุปกรณ์รับสัญญาณอยู่ใกล้ ๆ ตัวเครื่อง ผลที่ได้คือ TP-Link Archer C50 สามารถปล่อยสัญญาณได้แรงดีทีเดียว เมื่อเทียบกับ Wireless Router ที่วางอยู่ใกล้ ๆ กัน

เทสความเร็วเบื้องต้น ด้วยการเชื่อมต่อเพียง 1 อุปกรณ์ ผ่านคลื่น 5 GHz บนสมาร์ทโฟน ก็ได้ความเร็วใกล้เคียงกับเน็ตที่บ้าน ซึ่งปกติอยู่ที่ 20 Mbps ตามภาพเลย

ต่อไปลองเทสประสิทธิภาพสัญญาณ โดยเพิ่มอุปกรณ์เชื่อมต่อเป็น 5 ตัว ซึ่งมีต่อผ่านสาย LAN x 1 และความถี่ 2.4 GHz x 1 นอกนั้นเป็นความถี่ 5 GHz ทั้งหมด จากนั้นทุกอุปกรณ์ก็จัดแจงเปิด Youtube ความละเอียดสูงสุดทั้งหมดพร้อมกัน

จากตอนทดสอบเบื้องต้นครั้งแรกได้ความเร็วไป 18 Mbps พอหลังเชื่อมต่อพร้อมกัน 5 อุปกรณ์ ตอนนี้เหลือ 10.2 Mbps ถือว่ากำลังดี ความเร็วไม่ตกจนใช้งานไม่ได้เลย

สุดท้าย เทสระยะการปล่อยสัญญาณ โดยย้ายจากห้องทำงานที่มีตัว TP-Link Archer C50 วางอยู่ ไปยังห้อนนอนที่ถัดไปอีก 2 ห้อง รอดูว่าสัญญาณจะทะลวงมาถึงไหม

ผลคือสัญญาณก็มีดรอปไปตามสภาพ

แต่เมื่อลองเชื่อมต่อผ่าน 2.4 GHz จะเห็นว่าสัญญาณตกไปไม่มาก เนื่องจากคุณสมบัติทะลุทะลวงที่เป็นจุดเด่นของความถี่นี้เอง แต่ความเร็วที่ได้ก็อยู่ที่ 3.85 Mbps เท่านั้น

ส่วนความถี่ 5 GHz เห็นได้ชัดว่าสัญญาณตกไปเยอะ แต่ยังได้ความเร็วระดับ 13.9 Mbps

สรุป

สำหรับ TP-Link Archer C50 นี้ ก็เรียกได้ว่าเป็น Wireless Dual Band Router คุณภาพดีตัวหนึ่งเลย โดยกำลังในการกระจายสัญญาณถือว่าสูงไม่น้อย และยังมีประสิทธิภาพพอตัว จากการทดสอบเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมใช้งานอินเทอร์เน็ตหนัก ๆ พร้อมกัน สำหรับดีไซน์ก็ปรับเปลี่ยนตามการใช้งาน ที่หลัง ๆ ทาง TP-Link ได้เน้นให้อุปกรณ์เน็ตเวิร์คหลาย ๆ ตัว รองรับการควบคุมผ่านแอพฯ ในตัวเดียว ช่วยให้สะดวกต่อการตั้งค่าใช้งานกว่าสมัย Log-In หน้าเว็บขึ้นเยอะ ส่วนตัวแอพฯ ก็ใช้งานไม่ยาก มีแบ่งหน้าการตั้งค่าชัดเจน ไม่ต้องเอาเมนูนี้เมนูนั้นให้วุ่นวายเหมือนก่อน สุดท้ายราคาของ TP-Link Archer C50 ก็อยู่ที่ 1,590 บาทเท่านั้น นับว่าเกินคาดมาก ๆ ทั้งยังมาพร้อมประกันตลอดชีพแบบ Limited lifetime warranty อีกด้วย สำหรับตัวเครื่องก็สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Shopee , Lazada หรือร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วไป