เสียไปไม่น้อย Meta สูญเงินเกือบพันล้าน แลกฝัน สร้าง Metaverse

Reality Labs
ตั้งแต่วันที่พี่มาร์คเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก Facebook ไปเป็น Meta นั่นก็ทำให้เราเห็นความตั้งใจของเขาจริง ๆ แล้ว
.
แต่จนปัจจุบัน Meta สูญเสียเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือน เพื่อที่จะทำให้ความฝันของ Metaverse เกิดขึ้นจริง
.
โดยแผนก Reality Labs ของ Meta เป็นแผนกที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้าน VR และ AR ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของความฝันของบริษัทในการสร้าง Metaverse แต่ตอนนี้ แผนกได้ใช้เงินไปมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว และในช่วง 6 เดือนที่ผ่านก็สูญไปอีก 6 พันล้านดอลลาร์ค
.
แม้ Meta จะทุ่มเงินไปขนาดนั้นแล้ว ผู้ใช้อย่างเราก็ยังไม่ได้เห็นอะไรที่ชัดเจนเกี่ยวกับ Metaverse ของบริษัท ซึ่งยังคงเป็น Verse ที่เราเคยเห็นกันมาก่อนหน้า หากจะเข้าใช้งาน ก็จำเป็นต้องมีแว่น OCulus Quest เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้ต้องมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
.
แต่ท้ายที่สุด ข่าวไม่ดียังคงปรากฏเพิ่มขึ้นใน Verse ของ Meta โดยเมื่อต้นปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทเปิดให้คนเข้ามาทดสอบใช้งาน ผู้ทดสอบหลายคนผิดหวังเพราะภาพกราฟฟิกที่ไม่ได้สวยอย่างที่คิด และยังมีข่าวอีกว่า อวตาร์ของผู้หญิงคนหนึ่งถูกแทะโลมจากอวตาร์เกรียนสองคน แม้จะเป็นตัวละครที่สมมุติขึ้นในโลกเสมือน แต่นั่นก็ทำให้เธอได้รับประสบการณ์ไม่ดีไปแล้ว
.
ถึงแม้ว่า Metavese จะเป็นเหมือนหลุมดำที่สูบเงินจากบริษัทไม่จบสิ้น และยังไม่มีท่าทีที่จะทำให้อะไรเด่นชัดขึ้นมา แต่ Facebook และ instagram ยังทำกำไรได้ 46.8 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว และอีก 16.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยพยุงบริษัทไว้ได้
.
แต่การเบนเข็มไปลงทุนเกี่ยวกับ Metaverse เพียงอย่างเดียว ทำให้ Meta ต้องได้รับการตรวจสอบมากมายเกี่ยวกับการใช้เงินไปกับแผนก Reality Labs รวมทั้งในปีนี้ Mark ยังให้ข้อมูลว่าบริษัทเตรียมรัดเข็มขัดให้แน่นมากขึ้นจากรายได้โฆษณาที่ลดลง (แต่ยังทำกำไรนะ)
.
ในขณะที่บริษัททุ่มกับ Metavese แต่ลืมสิ่งที่เป็นแขนขาของตัวเอง… ปัจจุบันผู้ใช้หลายคนรวมทั้งเพจต่าง ๆ ยังบ่นอุบเกี่ยวกับปัญหาของ Facebook ที่เจอบ่อย ทั้งเรื่องของการแสดงฟีดมั่ว หรือการจัดการเพจที่ยุ่งยากขึ้น ซึ่งทำให้ชื่อเสียงของ Meta ตกต่ำลงเรื่อย ๆ ครับ
.
มารอลุ้นกันว่า Metavese ของ Meta จะสำเร็จเป็นรูปเป็นได้จริง ๆ เมื่อไหร่ เพราะหาก Mark ยังให้ความสำคัญกับ Meta และลืม Faecebook และ iG เราอาจจะได้เห็นพัฒนาการที่ถดถอยของทั้งสองแพลทฟอร์ม …
.
ที่มาข้อมูล