แคนนอน เผยโฉมกล้องภาพยนตร์ระบบดิจิตอลรุ่นใหม่ Canon EOS C300 Mark III พร้อมเลนส์ในตระกูล “CINE-SERVO” เพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ใช้งานกล้องถ่ายภาพยนตร์

กล้องถ่ายภาพยนตร์ EOS C300 Mark III พร้อมเลนส์ถ่ายภาพยนตร์ รุ่น CN-E85mm T1.3 L F

แคนนอน แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ กล้องถ่ายภาพยนตร์ EOS C300 Mark III สำหรับการผลิตวิดีโอระบบ Cinema EOS มีช่วงไดนามิกสูง ใช้เซ็นเซอร์ Dual Gain Output (DGO) ที่พัฒนาขึ้นใหม่และรองรับการบันทึกอัตราเฟรมสูง ความละเอียดระดับ 4K/ 120p

กล้องถ่ายภาพยนตร์ Canon EOS C300 Mark III รุ่นใหม่นี้ เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจากกล้องถ่ายภาพยนตร์ Canon EOS C300 Mark II (เปิดตัวในเดือนกันยายน 2558) ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีในสาขาการถ่ายภาพต่างๆ เช่น การผลิตวิดีโอและการผลิตเนื้อหาสำหรับออกอากาศ นอกจากนี้ การเพิ่มประสิทธิภาพขั้นพื้นฐานจากรุ่นที่มีอยู่แล้ว ทำให้ EOS C300 Mark III ใช้การออกแบบแบบแยกส่วนแบบเดียวกับ EOS C500 Mark II (เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2562) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งกล้องให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในการถ่ายภาพได้ โดยรองรับการผลิตที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

สร้างสรรค์ผลงานวีดีโอได้หลากหลาย เพื่องานโปรดักชั่นระดับมืออาชีพ

ด้วยเซ็นเซอร์ Dual Gain Output (DGO) และระบบ CMOS ขนาดซุปเปอร์ 35 มม. ความละเอียดระดับ 4K ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ทำให้ EOS C300 Mark III สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 4K/ 60p ด้วยช่วงไดนามิกที่สูงมากและสัญญาณรบกวนต่ำในโหมด DGO ได้กล้องถ่ายภาพยนตร์ EOS C300 Mark III มาพร้อมกับระบบการประมวลผลวิดีโอแบบ DIGIC DV 7 จึงรองรับการบันทึกอัตราเฟรมสูงความละเอียดระดับ 4K/ 120p และยังมีเทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF ให้ความแม่นยำในการโฟกัสสูง ซึ่งจำเป็นสำหรับการบันทึกด้วยความละเอียดระดับ 4

คล่องตัวสูงสุด พร้อมทุกสถานการณ์

ด้วยการออกแบบกล้อง EOS C300 Mark III ให้สามารถแยกส่วนได้เช่นเดียวกับ EOS C500 Mark II ผู้ใช้จึงสามารถปรับแต่งกล้องให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมในการทำงานได้ตามต้องการ  รวมถึงใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย (แยกจำหน่าย) หรือจะติดเมาท์เพิ่มเติม  (แยกจำหน่าย) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเมาท์ของตัวกล้องจากเมาท์ EF เป็นเมาท์สำหรับเลนส์ PL หรือ EF Cinema Lock ได้ เพื่อใช้งานร่วมกับกับเลนส์ประเภทต่างๆ ได้อีกด้วย

2 รูปแบบวิดีโอเพื่อความยืดหยุ่นในการบันทึก

ด้วยการนำวิดีโอรูปแบบ Cinema Raw Light[1] มาใช้และการบันทึกวิดีโอในรูปแบบ XF-AVC ในกล้องถ่ายภาพยนตร์ Canon EOS C300 Mark III ผู้ใช้จึงมีอิสระในการเลือกรูปแบบไฟล์วีดีโอที่เหมาะสมกับงานโปรดักชั่นที่ต้องการมากที่สุด ซึ่งวิดีโอรูปแบบ Cinema Raw Light จะเน้นคุณภาพของภาพที่ดีที่สุดเท่าจะที่เป็นไปได้และยังสามารถจัดการกับไฟล์ข้อมูลได้ง่าย ในขณะที่การบันทึกวิดีโอในรูปแบบ XF-AVC (Intra Frame) เหมาะสำหรับเนื้อหาที่ใช้สำหรับออกอากาศ และงานที่ต้องการความรวดเร็ว แต่ยังคงรักษาคุณภาพของภาพไว้ได้ โดยทั้งรูปแบบ Cinema Raw Light และ XF-AVC สามารถบันทึกลงในการ์ดความจำ CFexpress Type B แบบออนบอร์ดได้อีกด้วย

เลนส์ถ่ายภาพยนตร์ รุ่น CN10x25 IAS S/E1 (เมาท์ EF) และรุ่น CN10x25 IAS S/P1 (เมาท์ PL)

นอกจากนี้ แคนนอนยังประกาศเปิดตัวเลนส์ถ่ายภาพยนตร์ รุ่น CN10x25 IAS S/E1 (เมาท์ EF) และรุ่น CN10x25 IAS S/P1 (เมาท์ PL) ในตระกูล CINE-SERVO[2] ถือเป็นเลนส์ถ่ายภาพยนตร์ EF รุ่นใหม่ล่าสุด เพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้งานกล้องถ่ายภาพยนตร์

สำหรับเลนส์ถ่ายภาพยนตร์ตระกูล CINE-SERVO รุ่นใหม่นี้ ให้ประสิทธิภาพแบบออพติคอลความละเอียดระดับ 8K ซูมกำลังขยาย 10 เท่าและมีตัวขยายภายในตัวเลนส์ 1.5 เท่า นอกจากการออกแบบที่มีน้ำหนักเบาสามารถพาดบนไหล่ได้แล้ว ยังมีไดรฟ์แบบถอดได้ทำงานแบบเดียวกับเลนส์ออกอากาศที่มีการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายตั้งแต่การผลิตเนื้อหาออกอากาศไปจนถึงการผลิตวิดีโอ

ระบบออพติคอลประสิทธิภาพสูง ผสานกับกล้องความละเอียดระดับ 8K

ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบออพติคอลที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแคนนอน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับตำแหน่งของแต่ละชิ้นส่วนให้เหมาะสมที่สุดเมื่อรวมกับกระจกกระจายตัวต่ำพิเศษ ชิ้นส่วนเลนส์ Aspherical ทรงกลมขนาดใหญ่ ช่วยเรื่องการกำจัดขอบสีและความคลาดเคลื่อนของสี ซึ่งได้ถูกพัฒนาอยู่ในตัวเลนส์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของออพติคอลเข้ากันได้ดีกับกล้องความละเอียดระดับ 8K จากกึ่งกลางของเฟรมไปจนถึงสุดขอบภาพตลอดช่วงระยะการซูม 10 เท่า แม้จะมีการใช้งานร่วมกับตัวขยายภายในตัวเลนส์ 1.5 เท่า ก็ยังคงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการทำงานของออพติคอลระดับ 8K ได้อย่างไม่มีข้อกังขา

ซูม 10 เท่าด้วยความยาวโฟกัสที่กว้างขึ้น

แคนนอน CN10x25 IAS S สามารถใช้งานร่วมกับเซ็นเซอร์มาตรฐานขนาดซุปเปอร์ 35 มม. ซึ่งเป็นขนาดเซ็นเซอร์ที่พบได้ทั่วไปในตลาด มีระยะการซูม 10 เท่าที่ครอบคลุมความยาวโฟกัส 25 – 250 มม. เมื่อใช้ตัวขยายติดตั้งอยู่ภายใน จะทำให้ได้ระยะการซูมที่ไกลมากขึ้นเป็น 37.5 – 375 มม. และด้วยการติดตั้งตัวขยายนี้ทำให้วงภาพของเลนส์จะยังคงครอบคลุมเซ็นเซอร์ฟูลเฟรม 35 มม. อีกด้วย เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการใช้เลนส์ และตอบโจทย์ความต้องการของงานโปรดักชั่นในยุคที่กล้องฟูลเฟรม 35 มม. ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

ชุดไดร์ฟแบบถอดได้และฟังก์ชั่นต่างๆ ให้การถ่ายภาพสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ชุดไดรฟ์แบบถอดได้นั้นติดตั้งไว้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับ CN10x25 IAS S  เพียงแค่ถอดชุดไดรฟ์ออก ผู้ใช้ก็สามารถเลือกปรับเลนส์แบบแมนนวลได้ซึ่งเหมาะสำหรับงานโปรดักชั่นภาพยนตร์และวิดีโอ นอกจากนี้ CN10x25 IAS S/E1 (เมาท์ EF) สามารถจับคู่กับกล้องดิจิตอลในระบบ Cinema EOS เพื่อนำไปใช้กับ Dual Pixel CMOS AF ซึ่งจะทำให้การทำงานของออโต้โฟกัสเป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพการติดตามตัวแบบสูง เหมาะสำหรับการผลิตภาพยนตร์และวิดีโอ[3]คุณภาพสูง

กล้องถ่ายภาพยนตร์ Canon EOS C300 Mark III และ เลนส์ถ่ายภาพยนตร์ รุ่น CN10x25 IAS S/E1 มีกำหนดวางจำหน่ายในประเทศไทย ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในเดือนกรกฎาคม 2563

ราคาจำหน่าย

  • กล้องถ่ายภาพยนตร์ Canon EOS C300 Mark III ราคา 405,900 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) พร้อมโปรโมชั่นเปิดตัว เมื่อสั่งซื้อภายในวันที่ 2 สิงหาคม 2563 ดังนี้
สินค้า Cash Back ของแถม
SET A:

EOS C300 Mark III พร้อมเลนส์ EF Cine Prime

(รุ่นใดรุ่นหนึ่งอย่างน้อย 1 ชิ้น)

16,500 บาท –   BATTERY PACK BP-A60,

–   CFexpress Card 512GB

–   CFexpress Card Reader

รวมมูลค่า 41,790 บาท

SET B:

EOS C300 Mark III พร้อม PM-V1 และเลนส์ Sumire

(รุ่นใดรุ่นหนึ่งอย่างน้อย 1 ชิ้น)

66,000 บาท
SET C:

EOS C300 Mark III พร้อม PM-V1,

เลนส์ CN-E15.5-47mm และ CN-E30-105mm

82,500 บาท

 

* สนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอทดลองประสิทธิภาพกล้อง Canon EOS C300 Mark III

กรุณาติดต่อบริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) ส่วนงานวิดีโอโปรเฟสชันแนล โทร. 0-2344-9999 ต่อ 3338, 3222 * 

[1] Cinema Raw Light สามารถบันทึกได้เฉพาะในการ์ดความจำ CFexpress Type B เท่านั้น

[2] ศัพท์ทั่วไปสำหรับเลนส์ที่มีชุดไดร์ฟมาตรฐาน สามารถใช้งานร่วมกับกล้องที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่

[3] รุ่นที่รองรับคือ EOS C700 FF (เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2561), EOS C700 (เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2559) และเมื่อใช้เมาท์ EF, EOS C700 GS PL (เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2559), EOS C500 Mark II (เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2062), EOS C300 Mark III (จะเปิดตัวในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2563) และ EOS C300 Mark II (เปิดตัวในเดือนกันยายน 2558) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นของกล้องและจำเป็นต้องทำการอัปเกรดเฟิร์มแวร์ของกล้องด้วย