พรีวิว iPhone 8 Plus เครื่องศูนย์ไทย

iPhone 8 และ iPhone 8 Plus วางขายในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งผมเองมีโอกาสได้สัมผัสกับ iPhone 8 Plus เครื่องศูนย์ไทย จาก iStudio by SPVI เป็นระยะเวลาสั้น ๆ จึงใช้โอกาสนี้นำมาบอกเล่าให้กับผู้อ่านทุกท่าน เผื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อครับ

iPhone 8 Plus เครื่องศูนย์ไทย

สเปค iPhone 8 Plus

  • ตัวเครื่องบาง 7.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 202 กรัม
  • หน้าจอ Retina HD ขนาด 5.5 นิ้ว IPS ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซลที่ 401 ppi, การแสดงผลแบบ True Tone, 3D Touch, สนับสนุนเทคโนโลยีการแสดงผลวิดีโอและภาพแบบ Dolby Vision และ HDR10
  • กันน้ำ กันฝุ่นที่มาตรฐาน IP67
  • ชิพประมวลผล Apple A11 Bionic สถาปัตยกรรม 64 บิต, ชิพ M11 สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหวในตัว
  • กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (กล้องมุมกว้างและกล้องเทเลโฟโต้), รูรับแสงเลนส์มุมกว้างขนาด f/1.8,เลนส์เทเลโฟโต้รูรับแสงขนาด f/2.8, ซูมดิจิตอลได้สูงสุด 5 เท่า, ซูมออปติคอล และซูมดิจิตอลได้สูงสุด 10 เท่า, ระบบกันสั่นมาพร้อมโหมด Portrait, แฟลช LED แบบ True Tone, ถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60fps (ซูมออปติคอล และซูมดิจิตอล 6 เท่า)
  • กล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 มาพร้อม Retina Flash, ถ่ายวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080p
  • Touch ID สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม
  • ความจุ 64GB (รุ่นที่นำมาพรีวิว)
  • รองรับการชาร์จไร้สายผ่านแท่นชาร์จมาตรฐาน Qi
  • ราคาเครื่องเปล่า 32,500 บาท (อ้างอิงจากหน้าเว็บไซต์ Apple Store Online)

แกะกล่อง

ตัวกล่องบรรจุเป็นกล่องสีขาว โดดเด่นด้วยรูป iPhone 8 Plus ภายในบรรจุตัวเครื่อง, หูฟัง, อะแดปเตอร์, สาย Lightning และ headphone Jack Adapter ขนาด 3.5 มิลลิเมตร เอาไว้ใช้ทดแทนช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ที่ถูกตัดออกไปตั้งแต่ iPhone 7 / 7 Plus

ดีไซน์กระจก

พื้นผิวของ iPhone 8 Plus ใช้กระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (ด้านหน้ามีการเคลือบสารกันรอยนิ้วมือ) กรอบเป็นอะลูมิเนียม ส่วนประกอบต่าง ๆ ทำออกมาอย่างเรียบหรู ไร้รอยต่อ ตามสไตล์ Apple หากเปรียเทียบน้ำหนักกับ iPhone 7 Plus จะพบว่า iPhone 8 Plus มีน้ำหนักมากขึ้นเล็กน้อย

ขณะที่กล้องหลังคู่ยังนูนขึ้นมาเหมือนเช่นเคย ซึ่งหลายคนที่ไม่เคยใช้ iPhone มาก่อนมักถามผมว่า เลนส์ที่นูนออกมาแบบนี้จะไม่ทำให้เป็นรอยหรืออย่างไร ? คำตอบ คือ มีโอกาสน้อยมากครับ !! เนื่องจาก Apple ใช้กระจกประเภทที่เรียกว่า “แซฟไฟร์” ที่ให้ความแข็งแรงและทนทานเข้ามาครอบตัวเลนส์ ดังนั้นเวลาตัวเครื่องด้านหลังแตะกับพื้นโต๊ะก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดเป็นรอยขึ้นที่เลนส์ครับ

หน้าจอ

นอกจากหน้าจอจะเป็น Retina HD แล้ว สิ่งที่เพิ่มขึ้นใน iPhone 8 Plus ยังเป็นเทคโนโลยี True Tone ตัวช่วยในการปรับแสงสีของการแสดงผลให้เหมาะสมกับสภาพแสงที่แตกต่างกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะบอกว่าเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ใน iPad Pro ครับ นอกจากนี้ภายในยังสนับสนุนเทคโนโลยีการแสดงผลวิดีโอและภาพแบบ Dolby Vision และ HDR10 เพื่อให้การรับชมเต็มไปด้วยความคมชัด ละเอียดยิ่งขึ้นครับ

กล้อง

เรื่องสำคัญที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้สมกับเป็น iPhone 8 Plus คือ กล้องถ่ายภาพครับ โดยกล้องหลังคู่ยังคงความละเอียดเท่าเดิมที่ 12 ล้านพิกเซล (เลนส์คู่ประกอบไปด้วยเลนส์มุมกว้างและเทเลโฟโต้) ซึ่งสิ่งสำคัญที่ Apple เน้นย้ำในรุ่นนี้ คือโหมด “Portrait Lighting” ซึ่งใน iPhone 8 Plus จะมีเทคโนโลยีเฉพาะตัว เพื่อการถ่ายภาพบุคคลหรือวัตถุในระยะใกล้ได้อย่างโดดเด่นมากขึ้น พร้อมมีเมนูอื่น ๆ ภายในโหมดเพื่อช่วยการจัดแสงให้ตรงกับความพอใจของผู้ใช้ แบ่งเป็น 5 เมนู ได้แก่ Natural Light, Studio Light, Contour Light, Stage Light และ Stage Light Mono

นอกจากนี้หลังจากเราถ่ายภาพด้วยโหมด Portrait Lighting เสร็จแล้ว ยังสามารถปรับรูปแบบแสงสีด้วยเมนูทั้ง 5 ในภายหลังได้อีกด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยโหมด Portrait Lighting 

เมนู Natural Light

เมนู Studio Light

 

สรุปการพรีวิวสั้น ๆ ของ iPhone 8 Plus

เมื่อมองเผิน ๆ อาจทำให้รู้สึกว่าไม่ได้แตกต่างไปจาก iPhone 7 Plus แต่หากได้สัมผัสจริง ๆ จะรู้ได้ทันทีว่า iPhone 8 Plus มีความสวยขึ้นมาก นอกจากนี้เทคโนโลยีการถ่ายภาพผ่านโหมด Portrait Lighting ยังทำหน้าที่ได้ดีขึ้น มีตัวเลือกให้ใช้งานมากขึ้น แถมใช้งานง่าย ดังนั้นใครที่สนใจและอยากสนุกกับการถ่ายภาพผมแนะนำว่าต้องลองครับ