รีวิว Huawei Y9 2018 camera test อยู่ที่ไหน ก็ถ่ายรูปให้สวยได้

เมื่อประมาณต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา Huawei Y9 เวอร์ชั่น 2018 ถูกส่งมาให้ aripfan รีวิว ซึ่งก็เหมาะเจาะกับที่ผมจะเดินทางไปพักผ่อนที่ทะเลช่วงวันหยุดพอดิบพอดี จึงไม่พลาดพกใส่กระเป๋าไปทดลองใช้ด้วย แต่ต้องขอเกริ่นไว้ก่อนครับว่า รีวิว Huawei Y9 ครั้งนี้ จะเน้นนำเสนอเรื่องการถ่ายภาพเป็นหลัก (ฉบับบ้านๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า !!) ซึ่งผมก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาประหยัด แต่ให้คุณสมบัติด้านการถ่ายภาพที่คุ้มค่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับสมาร์ทโฟนตัวท็อปๆ ได้

รีวิว Huawei Y9

ตัวเครื่อง

Huawei Y9 ที่ผมได้รับมาตัวเครื่องเป็นสีน้ำเงิน ถูกพัฒนาภายใต้วัสดุประเภทโลหะแบบ Unibody ที่เรียบง่ายเป็นอันหนึ่งอันเดียว ให้ความรู้สึกดูแพง ไม่เหมือนสมาร์ทโฟนที่มีราคาไม่เกิน 7 พันบาท

ในด้านการใส่ซิมของ Huawei Y9 สามารถใส่ NANO SIM ได้ 2 ซิม และ microSD Card พร้อมกันได้เลย ไม่ต้องรักพี่เสียดายน้อง แต่ก็ขอย้ำว่าเวลาใช้เน็ต 4G ก็จะเลือกใช้ได้แค่ซิมเดียวนะครับ

กล้อง

อย่างที่บอกไปเมื่อตอนต้นครับว่า รีวิว Huawei Y9 ครั้งนี้ จะเน้นนำเสนอเรื่องการถ่ายภาพฉบับบ้านๆ เป็นหลัก แต่ก่อนอื่นมาดูกันก่อนว่าในรุ่นนี้สเปกกล้องเป็นอย่างไรบ้าง ความโดดเด่นของ Huawei Y9 เวอร์ชั่น 2018 จะมีกล้องมาให้ทั้งหมด 4 ตัว แบ่งเป็นหน้า 2 หลัง 2 โดยกล้องหลังคู่มากับความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED, ถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p ขณะที่กล้องหน้าคู่มากับความละเอียด 16 + 2 ล้านพิกเซล ถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p เช่นกัน

โหมด Auto

สีของภาพที่ออกมาค่อนข้างมีความคม สีสด ให้ความชัดเจนในรายละเอียด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขอแนะนำไว้ก่อนว่า แต่ละภาพในโหมด Auto มีเรื่องของแสงตามธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ฉะนั้นสีสันจะออกมาสวยมากน้อยขนาดไหนเรื่องแสงก็นับเป็นปัจจัยที่สำคัญครับ

ตัวอย่างภาพโหมด Auto

Wide aperture

ฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจของกล้อง Huawei Y9 เวอร์ชั่น 2018 เป็นคุณสมบัติของการถ่ายหลังละลาย หรือประโยคง่ายๆ ที่มักเรียกว่า “หน้าชัดหลังเบลอ” เป็นการใช้ซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยให้เกิดภาพในลักษณะหน้าชัดหลังเบลอ เมื่อเปิดกล้องขึ้นมา แท็บด้านบนจะโหมดที่เรียกว่า “Wide aperture” ไอคอนรูปวงกลมหกแฉก เมื่อเราเกิดอยากได้ภาพที่มีมิติแบบหน้าชัดหลังเบลอ เพียงแตะที่โหมด Wide aperture ก็พร้อมที่จะถ่ายในทันทีแล้ว

หากต้องการให้ด้านหลังเบลอมากน้อยขนาดไหน แค่แตะที่ไอคอนรูปวงกลมหกแฉกอีกจุดที่บริเวณด้านขวาของจอและเลื่อนปรับระดับความเบลอได้อย่างที่ต้องการ ยิ่งตัวเลขน้อย ยิ่งทำให้ฉากหลังเบลอมากขึ้น โดยตัวเลขดังกล่าวเปรียบเสมือนการจำลองค่ารูรับแสงที่มีเลือกต่ำสุด คือ f/0.95 สูงสุด คือ f/16

ขอแนะนำเล็กน้อยสำหรับมือใหม่หัดใช้โหมด Wide aperture ควรมีตัวแบบที่ต้องการโฟกัสให้ชัดเจน, ระยะห่างระหว่างตัวแบบกับกล้องควรอยู่ระยะที่เหมาะสม ไม่ไกลกันจนเกินไป และที่สำคัญการปรับความละลายหรือความเบลอก็ควรอยู่ในระดับกลางๆ เพื่อให้เกิดความเนียน ไม่ดูหลอกจนเกินไป

ข้อดีอีกอย่างของการใช้โหมด Wide aperture หลังจากถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากไม่พอใจความละลายหรือความเบลอ ก็สามารถเข้าในแกลอรี่เพื่อปรับให้ดียิ่งขึ้นได้อีกด้วย แต่ในแง่ของความละเอียด เมื่อเพื่อนๆ เลือกใช้ Wide aperture ความละเอียดจะถูกปรับเหลือเพียง 8 ล้านพิกเซล โดยอัตโนมัติ และไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ครับ

สุดท้ายกับโหมด Wide aperture ยังถูกรวมไว้กับโหมดถ่ายภาพบุคคลในกล้องหน้าด้วย เมื่อเซลพี่ด้วยโหมดถ่ายภาพบุคคลก็สามารถปรับระดับความเบลอได้เช่นเดียวกัน

ถ่ายย้อนแสง

เมื่อใดก็ตามที่เรายกสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายภาพ ในมุมที่เรียกว่าย้อนแสง คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสีของภาพแทบจะมืดไปเลยก็ว่าได้ ซึ่งภาพจาก Huawei Y9 ที่ผมถ่ายย้อนแสงนี้ ยังมีระดับความสว่างในภาพให้เห็นอยู่พอสมควร ไม่ได้มืดไปซะทั้งหมด แต่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนใช้โหมด Pro เป็น ก็อาจเลือกใช้วิธีปรับค่าแสงต่างๆ ให้ดีขึ้นได้

ตัวอย่างภาพถ่ายย้อนแสง โหมด Auto

ถ่ายกลางคืน

จากการใช้เวลาเป็นนักท่องเที่ยวในช่วงกลางคืน หยิบ Huawei Y9 ขึ้นมาถ่ายริมทะเลที่มีแสงไฟจากโรงแรมลอดเข้ามาบ้างเล็กน้อยด้วยโหมด Auto ระบบของกล้องก็พยายามเต็มที่ที่จะช่วยให้ภาพในสภาพแสงน้อยสุดๆ ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจากที่ผมลองเช็ครายละเอียดของภาพนี้ ก็พบว่าระบบของกล้องหลังในโหมด Auto ดัน ISO ไปถึง 2000 เลยครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายกลางคืน โหมด Auto

โหมดอื่นๆ

ใน Huawei Y9 ไม่ได้มีแค่โหมด Auto, โหมด Pro หรือโหมด Wide aperture เท่านั้น แต่ยังมีทางเลือกทีทำให้เราได้สนุก ได้ทดลองใช้ ยกตัวอย่าง โหมดภาพวาดด้วยแสง ภายในจะมีเมนูย่อยแบ่งออกเป็น 4 หมวด ได้แก่ แสงไฟท้ายรถ, การพ่นสีด้วยแสง, น้ำตก และวิถีดวงดาว ใครที่อยากลองว่า Huawei Y9 จะถ่ายดาวบนฟ้าได้ไหม แนะนำให้ใช้เมนู “วิถีดวงดาว” และแนะนำเพิ่มว่าใช้ขาตั้งสำหรับมือถือควบคู่ไปด้วยครับ หรือใครที่อยากถ่ายรถยนต์เวลากลางคืนให้เห็นเป็นเส้นแสงสีสวย ลองเลยครับเมนู “แสงไฟท้ายรถ”

กล้องหน้าล่ะ !

สำหรับกล้องหน้าคู่ ที่พกความละเอียดมา 16 + 2 ล้านพิกเซล ยังแถมมาด้วยโหมดถ่ายภาพบุคคล ทำให้การเซลฟี่เกิดมีมิติแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องอาศัยโหมด Wide aperture เหมือนกล้องหลัง แถมยังมีโหมดบิวตี้เพื่อหน้าเนียนสวยขาวให้ปรับได้หลายระดับ

ตัวอย่างภาพเซลฟี่

รีวิว Huawei Y9 เวอร์ชั่น 2018 กับบทสรุปเรื่องการถ่ายภาพ

ในมุมมองของผมเองรู้สึกว่ากล้องของ Huawei Y9 เป็นสมาร์ทโฟนที่พัฒนาเพื่อสนับสนุนผู้ใช้ที่ไม่ได้ชำนาญกับการถ่ายเท่าไหร่นัก โหมดต่างๆ ที่มีให้เลือกมากมายเอื้อต่อการถ่ายภาพในสถานการณ์ต่างๆ ได้แบบง่ายๆ โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องการปรับค่าต่างๆ เหมือนช่างภาพก็ได้ เพียงแต่ภาพจะสวย มีความอาร์ตขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนครับ

ขณะเดียวโหมด Pro ก็เอื้อให้กับผู้ที่มีความชำนาญด้านการถ่ายภาพพอสมควร ISO ก็สามารถดันได้สูงสุด 1600 ค่า White Balance, ปรับการโฟกัสภาพ, สปีดชัตเตอร์ และชดเชยแสงก็มีให้ใช้ครบ ซึ่งสมาร์ทโฟนระดับราคาเท่านี้ก็นับว่าเกินคุ้มครับ ส่วนใครที่รักการเซลฟี่ กล้องหน้าก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ

จุดด้อยอย่างหนึ่งสำหรับ Huawei Y9 เห็นจะเป็นเรื่องการจับภาพเคลื่อนไหวที่ยังไม่มีปัญหาอยู่บ้าง เช่นเดียวกับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยจริงๆ และไม่มีโหมดถ่ายภาพกลางคืนมาให้

สุดท้ายนี้ เพื่อนๆ ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาประหยัด แต่ให้คุณสมบัติด้านการถ่ายภาพที่คุ้มค่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับสมาร์ทโฟนตัวท็อปๆ ได้ Huawei Y9 เวอร์ชั่น 2018 เป็นทางเลือกอีกหนึ่งรุ่นที่สมควรที่จะมีเก็บไว้ครับ ด้วยราคาเพียง 6,990 บาท (ราคา ณ วันที่ 19 เมษายน 2561)

สเปก Huawei Y9 เวอร์ชั่น 2018

  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.93 นิ้ว แบบ FullView Display อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด Full HD+ (2160 x 1080 พิกเซล)
  • ชิปประมวลผล Kirin 659 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.36GHz
  • ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo
  • ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด ประเภท NANO SIM
  • แรม 3GB, หน่วยความจำเครื่อง 32GB รองรับ microSD Card ความจุสูงสุด 256GB
  • กล้องหลังคู่ ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED บันทึกวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p
  • กล้องหน้าคู่ ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล ถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p
  • พอร์ต USB 2.0
  • ช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
  • แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh
  • เช็คราคาใน Lazada ได้ที่นี่