ลองจับ Samsung Galaxy Note 5 สวยและน่าใช้

เปิดตัวไปเพียงหนึ่งวันที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ล่าสุด Samsung Galaxy Note 5 เผยตัวเป็นๆ ให้สื่อมวลชนไทยได้สัมผัสกันแล้ว รวมถึงแอดมินเองด้วย โดยภาคต่อเจเนอเรชั่นที่ 5 ของแฟ็บเล็ตพร้อมปากกา S-Pen ฉลาดๆ ปรับโฉมพอสมควร พร้อมตัดตัวเลือกการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลอย่าง microSD card ออกไป แถมไม่สามารถถอดฝาหลังได้อีกแล้วด้วย

กล่องบรรจุภัณฑ์ยังเป็นสีขาว เช่นเดียวกับ Note 4

ตามที่กล่าวไปในข่าว Samsung Galaxy Note 5 เปิดตัว อย่างเป็นทางการ เป็นการปรับโฉมที่แทบจะยกชุดตามปรัชญาของ Galaxy S6 และ S6 Edge ด้านหน้าและด้านหลังของ Note 5 เปลี่ยนวัสดุเป็นกระจก Gorilla Glass 4 ออกแบบให้ขอบด้านหลังทั้งซ้ายและขวาเป็นไปในลักษณะเดียวกับการโค้งของหน้าจอซ้ายขวาใน S6 Edge เพื่อรองรับกับสรีระของมือผู้ใช้ที่มีความแตกต่างกัน หยิบจับได้ถนัดมากขึ้น

note-5-0015

 

ด้านขอบรอบตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมประเภทหนึ่งที่ Samsung ให้ข้อมูลว่าเป็นวัสดุที่ใช้เป็นส่วนประกอบเครื่องบินเจ็ท เรียกว่า Series 7000 ซึ่งเมื่อนำมาผสมผสานกับความแข็งแกร่งของกระจก Gorilla Glass 4 แล้ว ช่วยเพิ่มความทนทานอีกถึง 70% ลดการเกิดรอยจากการขีดข่วนได้เป็นอย่างดี

ขอบหน้าจอมีการขยับให้ชิดกับขอบตัวเครื่องเพิ่มขึ้นอีก 1 มิลลิเมตร จากเดิมใน Samsung Galaxy Note 4 ที่เว้นระยะห่างไว้ที่ 2.5 มิลลิเมตร เหลือเพียง 2.4 มิลลิเมตรใน Note 5 เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขีดเขียนให้มากขึ้นภายใต้หน้าจอ Super AMOED ความละเอียด QHD ขนาด 5.7 นิ้ว

เปรียบเทียบระหว่าง Note 5 กับ Note 4

ส่วนของปากกา S-Pen ปรับโฉมเล็กน้อยเช่นกัน จากเดิมใน Note 4 ที่ใช้พลาสติกเปลี่ยนมาเป็นอะลูมิเนียม มีปุ่มกดที่ปลายด้าม มีไว้สำหรับการกดให้ S-Pen เด้งออกมาอัตโนมัติในขณะที่เสียบอยู่กับตัวเครื่อง และตัวซอฟต์แวร์สำหรับการขีดเขียนได้ก็จะพร้อมใช้งานในทันทีอีกด้วย

ฟีเจอร์ชูโรงของ Note 5 เน้นที่การเชื่อมการใช้งานระหว่างผู้ใช้กับอุปกรณ์ที่สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น เมื่อใดก็ตามที่ถอดปากกา S-Pen ออกมาก ฟีเจอร์ Air command ที่พร้อมไปด้วยโหมดต่างๆ จะสามารถเรียกใช้งานได้ในทันที หรือในขณะที่หน้าจอล็อคอยู่ ผู้ใช้สามารถขีดเขียนข้อความเร่งด่วนบนพื้นหน้าจอสีดำ พร้อมบันทึกภาพได้โดยไม่ต้องปลดล็อค เรียกฟีเจอร์นี้ว่า “Off Screen Memo”

ขณะที่การ Capture ทั้งหน้าเว็บสามารถทำได้สะดวกยิ่งขึ้น เรียกฟีเจอร์นี้ว่า “Scroll Capture” ผู้ใช้สามารถกำหนดได้ว่าจะเลือก Capture ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปถึงจุดใดตามที่ต้องการหรือเต็มหน้าก็ได้ โดยหาก Capture ครบทั้งหน้าแล้ว ฟีเจอร์จะทำการบอกให้เราทราบทันทีก่อนบันทึกภาพดังกล่าว

ฟีเจอร์ Smart Select ได้รับอัพเกรดเพิ่มเช่นกัน โดยผู้ใช้สามารถเลือกครอบภาพในส่วนที่ต้องการให้เป็นวงกลม สี่เหลี่ยม หรือครอบเป็นแนวเส้นตามอิสระได้

กล้องถ่ายภาพด้านหลัง Note 5 คงที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, F/1.9 ไว้เช่นเดียวกับ Note 4 แต่เพิ่มคุณสมบัติต่างๆ มากขึ้น อาทิ

– ฟิลเตอร์ Effect ก่อนถ่ายภาพ (ดาวน์โหลดเพิ่มได้)

– Smart OIS หรือระบบป้องกันการสั่นไหวขณะถ่ายภาพหรือบันทึกวีดีโอ

– โหมด HDR แบบ Real-Time

– Video Collage การบันทึกวีดีโอในหลายๆ ช็อต แล้วนำมาเรียงไว้ในที่เดียวกัน โดยเทคนิคการ Collage ผู้ใช้สามารถบันทึกวีดีโอความยาว 6 วินาที ลงในแต่ละช่องว่างได้ แถมยังสามารถใส่เพลงประกอบ ข้อความ ไปจนถึงแชร์ลงในโซเชียลมีเดียได้อีกด้วย

– Live Broadcast การบันทึกวีดีโอส่วนตัวที่เสมือนการถ่ายทอดสด ที่สามารถส่งไปต่อไปยังเพื่อนหรือบุคคลที่เราต้องการให้เห็นได้พร้อมกัน โดยฟีเจอร์นี้ผู้ใช้สามารถกำหนดได้ว่าจะเลือกแชร์แบบส่วนตัวหรือแชร์แบบสาธารณะใน YouTube และจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการใช้งานด้วย

กล้องหน้าอัพเกรดจาก 3.7 ล้านพิกเซลใน Note 4 มาเป็น 5 ล้านพิกเซล มีโหมด Beauty  ที่ช่วยปรับความขาวใส เรียบเนียนให้กับใบหน้าผู้เซลฟี่ และมีโหมด Steady Video ที่สนับสนุนการถ่าย Selfie Video ที่เซนเซอร์จะคอยตรวจจับใบหน้า เพื่อให้ภาพที่ออกมามีความคมชัด ฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับกล้องหลังด้วย

แบตเตอรี่ใน Note 5 กลับมีความจุลดลงมาอยู่ที่ 3,000mAh จากเดิมใน Note 4 มีใช้แบตเตอรี่ความจุ 3,220mAh แต่ความจุที่น้อยลงถูกแทนที่ด้วยความเร็วในการชาร์จแบบปกติจาก 0% เต็ม 100% ภายใน 90 นาที และสามารถชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charging) จาก 0% ถึง 100% ภายในเวลา 120 นาที

ภาพรวมหลังลองจับ Samsung Galaxy Note 5 ในมุมมองส่วนตัวของแอดมินถือว่าการที่ Samsung เลือกการออกแบบไปในทิศทางเดียวกับ S6 และ S6 Edge ทำให้เรือธงซีรีส์ Note รุ่นล่าสุดมีความสวยงามมากขึ้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเลือกซื้อสมาร์ทโฟนในปัจจุบันของผู้บริโภคที่มองเรื่องของการดีไซน์เป็นลำดับต้นๆ ขณะที่การใช้ S-Pen มีการพัฒนาเพื่อเชื่อมต่อการใช้งานระหว่างผู้ใช้กับอุปกรณ์ที่รวดเร็วมากขึ้น ด้านการใช้กล้องถ่ายภาพก็เช่นกัน การมีฟีเจอร์ Quick Launch หรือการกดปุ่มโฮมสองครั้ง ทำให้การเข้าถึงการถ่ายภาพรวดเร็ว ไม่พลาดทุกช็อตสำคัญ

ส่วนที่จะเป็นเรื่องที่ขัดใจผู้ใช้ Android ไม่น้อย เห็นจะเป็นการตัดการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลอย่าง microSD card ออกไป รวมทั้งจะไม่สามารถถอดฝาหลังเพื่อถอดแบตเตอรี่ในยามที่เครื่องค้าง (ยุทธวิธีสำหรับบางท่าน)ไม่ได้อีกแล้ว

ทั้งนี้ Samsung Galaxy Note 5 เปิดวางขายในไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 สิงหาคม ศกนี้  ซึ่งช่วงแรกจะมีสีเงินและสีทองให้เลือก ก่อนสีดำจะตามมาในภายหลัง ราคาความจุ 32GB อยู่ที่ 25,900 บาท และ 64GB ราคา 29,900 บาท

note-5-0016
เครดิตภาพ facebook.com/samsungmobilethailand

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here