ชไนเดอร์ อิเล็คทริค รุดหน้าดำเนินการด้านสภาพอากาศ ด้วยบริการลดคาร์บอนในซัพพลายเชนทั่วโลก

Group of Business People in Office Building.
  • บริการล้ำหน้าจะช่วยองค์กรลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 3 ผ่านการผสานรวมทั้งการวัดปริมาณการวางกลยุทธ์ และการติดตั้งโซลูชัน
  • การนำเสนอนี้ สร้างบนฐานความสำเร็จของการมีส่วนร่วมกับซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดในโลกหลายราย
  • ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังมุ่งมั่นสู่การเป็นซัพพลายเชนที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ภายในปี 2050

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค(Schneider Electric) ผู้นำระดับโลกด้านการจัดการพลังงาน ระบบออโตเมชั่น และความยั่งยืน ประกาศเปิดตัวบริการล้ำหน้าในการลดก๊าซเรือนกระจกในซัพพลายเชนทั่วโลก ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ แก้ปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปริมาณมากในแวร์ลูเชน (value chain) ขององค์กร การประกาศดังกล่าวออกมาเพื่อดำเนินการตามจุดมุ่งหมายใหม่ของบริษัทฯ ในการเพิ่มความมุ่งมั่นพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในซัพพลายเชนขององค์กรฯ โดยมุ่งมั่นลดการปล่อยคาร์บอนจากการดำเนินการของซัพพลายเออร์ชั้นนำจำนวน 1,000 แห่งให้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2025

สำหรับหลายบริษัท คาร์บอนฟุตพริ้นท์หลักๆ จะอยู่ในส่วนของซัพพลายเชนและแวร์ลูเชน (value chain) ทั้งนี้ CDP รายงานว่าตามข้อมูลในปี 2020 จากบริษัทกว่า 8,000 แห่ง มีการปล่อยคาร์บอนในซัพพลายเชนโดยเฉลี่ยจะสูงกว่าการปล่อยคาร์บอนในการดำเนินการทั่วไปมากกว่า 11 เท่า ซึ่งปริมาณเหล่านี้จะยิ่งมากขึ้นในภาคอุตสาหกรรมเช่น ค้าปลีก อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกาย รวมถึงการบริการ

การนำเสนอของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่อยู่ในภายใต้การบริการ Climate Change Advisory Service ที่ครอบคลุมของบริษัทฯ ช่วยให้องค์กรต่างๆ รับมือกับตัวเลขที่น่าตกใจนี้ ด้วยการผสานรวมทั้งในเรื่องของการร่วมมือกับซัพพลายเออร์ เกณฑ์การวัด การกำหนดกลยุทธ์ และนำมาใช้งานผ่านการจัดหาพลังงานหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพ และการชดเชยคาร์บอน การนำเสนอดังกล่าวต่อยอดจากความสำเร็จของโซลูชันซัพพลายเชนที่พัฒนาเพื่อลูกค้าอยู่แล้ว เช่น Wallmart, Maple Leaf Foods และ Takeda Pharmaceuticals

“แรงผลักดันอย่างต่อเนื่องของการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศในระดับองค์กรนั้นมากมาย ส่วนใหญ่ขับเคลื่อนจากความกดดันของผู้ลงทุนที่เพิ่มขึ้นในเรื่องความโปร่งใสและการเปิดเผยถึงความเสี่ยงทั้งเรื่องสภาพแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล” สตีฟ วิลไฮท์ รองประธานอาวุโส ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าว “สำหรับบริษัทส่วนใหญ่ ขอบเขตถัดไปจากเรื่องของการดำเนินการคือเรื่องซัพพลายเชน ข่าวดีก็คือการดึงซัพพลายเออร์ให้เข้ามามีส่วนร่วมในความมุ่งมั่นในการดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากจะช่วยให้บริษัทตอบสนองต่อแรงกดดันเหล่านั้นได้แล้ว ยังช่วยบ่งชี้ถึงการประหยัดค่าใช้จ่าย พัฒนานวัตกรรม และเพิ่มคุณค่าในสัมพันธภาพกับซัพพลายเออร์”

ในเดือนมกราคม ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับการยกย่องจาก Corporate Knights ในฐานะองค์กรที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นการยกย่องที่สะท้อนมาจากความมุ่งมั่นในแนวทางปฏิบัติในการสร้างความยั่งยืนของบริษัทฯ มานานกว่า 15 ปี รวมถึงเป้าหมายในการพัฒนาความยั่งยืนของ U.N.  นอกจากการตั้งเป้าของบริษัทฯ ที่เฉพาะเจาะจงเพื่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในซัพพลายเชนของบริษัทให้ได้ภายในปี 2025 ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังมุ่งมั่นในการทำงานอย่างจริงจังร่วมกับซัพพลายเออร์ในเชิงกลยุทธ์ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงบรรลุการเป็นซัพพลายเชนที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2050 เช่นกัน

เรียนรู้เกี่ยวกับบริการของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในซัพพลายเชน โดยอ่านได้ที่ https://perspectives.se.com

ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค พัฒนาความยั่งยืนไปสู่อีกระดับ รวมถึงโปรแกรมใหม่ในการสร้างผลกระทบด้านความยั่งยืนระหว่างปี 2021-2025 ได้ที่นี่

เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค

เป้าหมายของชไนเดอร์ อิเล็คทริค คือการช่วยให้ทุกคนใช้พลังงานและทรัพยากรได้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อมโยงความก้าวหน้าและความยั่งยืนเพื่อประโยชน์ของทุกคน เราเรียกสิ่งนี้ว่า Life Is On

ภารกิจของเราคือการเป็นพันธมิตรด้านดิจิทัลกับคุณ เพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยั่งยืน

เราขับเคลื่อนการปฏิรูปสู่ดิจิทัล ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยีชั้นนำของโลกด้านพลังงานและกระบวนการจัดการ เข้ากับผลิตภัณฑ์ตั้งแต่จุดเชื่อมต่อปลายทางไปยังคลาวด์ ระบบควบคุม รวมถึงซอฟต์แวร์และการบริการครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตการทำงานทั้งหมด เพื่อสร้างศักยภาพในการบริหารจัดการองค์กรแบบบูรณาการ ทั้งสำหรับบ้าน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรม

เราคือบริษัทระดับโลกที่มีการดำเนินงานในระดับท้องถิ่นมากที่สุด เราสนับสนุนมาตรฐานระบบเปิดและระบบนิเวศของคู่ค้าที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้าในการทำตามวัตถุประสงค์อย่างมีเป้าหมายร่วมกัน และคุณค่าในการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวพร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยกัน