เปิดตัว iOS 11 ปรับอินเทอร์เฟซใหม่ Siri ที่ฉลาดขึ้น และคุณสมบัติอื่นเพียบ

เปิดตัว iOS 11

มาตามนัดเมื่อเช่นทุกปี สำหรับการอัพเดท iOS ซึ่งภายในงาน WWDC 2017 เป็นการเปิดตัว iOS 11 เวอร์ชันล่าสุดสำหรับ iPhone และ iPad ซึ่งการอัพเดทพร้อมกันทั่วโลกจะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้

เปิดตัว iOS 11

1. iMessage to iCloud : ระบบส่งข้อความและรูปภาพที่ถูกจับมาใช้ร่วมกันบน iCloud ได้ เชื่อมการทำงานได้ทั้ง iPad และ macOS ด้วย

2. Apple Pay Cash Card : ระบบโอนเงินผ่าน iMessage แบบบุคคลต่อบุคคล ใช้สแกนลายนิ้วมือเป็นเครื่องยืนยันตัวตน

3. Siri ที่ฉลาดขึ้น : มีความสามารถในการแปลภาษาได้ (ตอนนี้ยังเป็นเวอร์ชั่น Beta และเริ่มต้นเพียง 5 ภาษาเท่านั้น) และสามารถแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว, ระยะทางสำหรับการเดินทาง หรือกำหนดนัดหมายให้ล่วงหน้าได้

4. ปรับปรุงระบบ High Efficiency Video Coding (HEVC) ให้ดีขึ้น 2 เท่า

5. ปรับปรุงไฟล์ภาพ JPEG ให้ดีขึ้น 2 เท่า

6. ปรับปรุงการถ่ายภาพในโหมด Portrait สำหรับ iPhone 7 Plus ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพของภาพถ่าย, การถ่ายภาพในที่แสงน้อย, ระบบกันสั่น, True Tone Flash และ HDR

7. Control Center แบบใหม่

8. ปรับปรุงและเพิ่มความสามารถให้กับ Live Photos : เมื่อเปิดใช้งานสามารถเลือกช็อตที่ดีสุดได้, มีเอฟเฟ๊กซ์เพิ่มลูกเล่น ได้แก่ การวนลูป, ทำภาพ Slow-motion และภาพถอยหลัง เป็นต้น

9. ปรับปรุง Moments ในแอพ Photos ให้ดีขึ้น

10. ปรับปรุง Apple Maps : สามารถเห็นรายละเอียดภายในตึกได้ดีขึ้น (ยังใช้ได้เพียงบางเมืองเท่านั้น ยังไม่มีประเทศไทย), บอกตำแหน่งร้านค้าต่างๆ ในสนามบินได้, แบ่งเลนบนท้องถนนได้ชัดเจนมากขึ้น

11. Do Not Distrub While Driving : สำหรับผู้ที่ใช้ Apple CarPlay เป็นระบบตัดการรบกวนต่างๆ ในขณะขับรถ ด้วยการปิดหน้าจอ หากมีผู้ติดต่อเข้ามาทาง iMessage สามารถกำหนดส่งข้อความเพื่อแจ้งว่าขณะนี้เรากำลังขับรถอยู่ได้

12. HomeKit : เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อกับลำโพงประเภท Smart Home ได้หลายตัวในเวลาเดียวกัน, แชร์เพลงที่จะเล่นถัดไปไปยัง Apple Music ได้, รองรับการใช้งานร่วมกับแบรนด์ลำโพงชั้นนำจำนวนมาก

13. อัพเดท Apple Music : มีความเป็นคอมมูนิตี้มากขึ้น สามารถเห็นเพื่อนที่ฟังเพลงประเภทเดียวกับเราได้

14. อัพเดท App Store : ปรับเปลี่ยนอินเทอร์เฟซใหม่บน App Store เป็นลักษณะการ์ด, แสดงแอพใหม่ประจำวัน, สามารถดูแอพต่างๆ ที่นักพัฒนาคนนั้นๆ เป็นผู้พัฒนาขึ้นได้

15. เปิดระบบ ML หรือ Machine Learning ให้นักพัฒนานำไปต่อยอดพัฒนาระบบอื่นๆ บน iOS ตามที่ Apple กำหนดได้

16. AR Kit : แพลตฟอร์มผสานโลกเสมือนจริง เพื่อการต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยี AR ให้มีความก้าวหน้าและทันสมัยสำหรับ iOS (โดยภายในงานมีการโชว์ตัวอย่างการใช้ AR ผ่าน iPhone และ iPad ให้ดู้วย)

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here