5G แล้วยังไง ชีวิตเราจะดีขึ้นขนาดไหน บทสรุปที่เราอาจต้องเตรียมปรับตัว

5G แล้วยังไง ชีวิตเราจะดีขึ้นขนาดไหน ?

เมื่อวันที่ 16 กสทช. ประกาศว่าได้มีการเปิดประมูลคลื่น 5G  จำนวน  3 คลื่น แต่ชีวิตเราจะดีขึ้นยังไง หาก 5G เปิดให้ใช้งานจริง ๆ

ผมไม่ขอพูดถึงว่าใครได้คลื่นอะไรไปแล้วบ้างนะ เพราะมีให้อ่านในเน็ตเยอะมาก แต่อยากพูดถึงว่า 5G มันจะส่งผลกระทบยังไงต่อชีวิตเรา และเราจำเป็นต้องใช้มันขนาดไหน

หมายเหตุ ข้อมูลที่เขียนต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่สอบถามกับทางผู้รู้หลายคน พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลจากหลาย ๆ แห่งมาสรุปให้อ่านกัน

คำถามแรก เน็ตจะเร็วขึ้นไหม ?

อันนี้ ในแง่ของการใช้ 5G แน่นอนครับว่า หาก 5G เปิดให้คนทั่วไปอย่างเรา ๆ ใช้งาน เน็ตต้องเร็วขึ้นอยู่แล้ว เพราะหนึ่งในจุดประสงค์ของการพัฒนา 5G คือเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูล โดยจากข้อมูลยืนยันว่า 5G จะเร็วขึ้นกว่า 4G  ถึง 20 เท่า

ค่าเน็ตจะแพงขึ้นหรือเปล่า ?

แน่นอนว่าค่าเน็ตต้องแพงขึ้นแน่นวล เพราะนอกจากเงินที่ผู้ให้บริการใช้ประมูลแล้ว พวกเขาต้องลงทุนสร้างเสาสัญญาณมากให้ขึ้น เพื่อให้การใช้งาน 5G เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และนั่นคือต้นทุนที่เกิดขึ้น

ความเร็ว 20 เท่า มันเร็วขนาดไหน

หากให้อธิบายง่าย ๆ  มันสามารถโหลดเกมขนาด 5GB หรือไฟล์ใหญ่ ๆ ได้ในระยะเวลาเพียง 4-5 วินาที ดูวีดีโอ 4K ได้ไม่ต้องกลัวกระตุก รองรับการเชื่อมต่อจำนวนมากโดยเคลมไว้ว่า 1 ล้านคนต่อตารางกิโลเมตร ที่สามารถให้ความเร็วสูงสุดได้

ค่า Latency หรือค่า Ping ต่ำกว่า 0.1 วินาที

ผมไปเจอข้อมูลหนึ่งใน Pantip เขาบ่นว่า 4G ยังไม่ดี ทำให้  4G เสถียรก่อนไหม ความเร็วแค่ 10Mbps ก็เล่นได้แล้ว ไม่ต้องเร็วถึง 1000 Mbps หรอก (เดาว่าต้องเจ็บแค้นอะไรมาจากการเล่นเกมหรือเปล่าหว่า…)

ต้องบอกว่าจริง ๆ แล้วจุดเด่นของ 5G ไม่ได้มีแค่ความเร็วที่เพิ่มขึ้น แต่มันสามารถให้ค่า Lateny ที่ต่ำกว่า 0.1 วินาที  (ค่า Lateny คือค่าส่งข้อมูลไปกลับระหว่างเครื่องเรากับเซิฟเวอร์ ยิ่งน้อยยิ่งดี เพราะจะส่งข้อมูลได้ไว) และนั่นจึงเป็นที่มาว่า 5G จะให้ความเสถียนมากกว่า 4G นะเออ

ไม่เพียงแค่นั้น 5G ไม่ได้ออกแบบมาแค่ให้เราเล่นเกมได้เสถียร แต่มันคือรากฐานของการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง รถยนต์ไร้คนขับ หรือการช่วยเหลือแพทย์ในการผ่าตัดข้ามโลกได้   โดยเมื่อปี 2019 จีนประกาศว่าสามารถให้แพทย์ผ่าตัดสมองในพื้นที่ห่างไกลของประเทศผ่านแขนกลและเครือข่าย 5G

แล้วเราควรใช้ 5G ของค่ายไหน ?

คำถามนี้ผมว่าทุกคนอยากรู้มาก ๆ นะ จริงอยู่ว่า  AIS เป็นฝั่งที่ได้คลื่นไปมากสุด แต่ก็ยังไม่มีอะไรรับรองว่าสัญญาณจะดีกว่าเจ้าอื่นที่ทิ้งแบบไม่เห็นฝุ่น (เพราะปัจจัยหลัก ๆ นอกจากคลื่นมันยังมีอีกเยอะมาก ทั้งเสาสัญญาณ จำนวนคนใช้งาน และพื้นที่ในการให้บริการ) อยู่ที่ว่า AIS จะลงทุนในคลื่นที่ตัวเองได้ไปขนาดไหน

และจากข้อมูลข้างต้น ผมไม่สามาถบอกได้จริง ๆ ว่า เราควรใช้ 5G ของค่ายไหน คงต้องวัดจากการใช้งานจริง ๆ ในวันที่เราได้ใช้ 5G แล้ว  เพราะนั่นคือสิ่งที่ตอบคำถามได้ดีที่สุด

เราต้องเปลี่ยนมือถือไหม หาก 5G เปิดใช้งาน

ถ้าอิงจากข้อมูลทั่ว ๆ ไป ก็คือต้องเปลี่ยนนั่นและครับ เพราะ Smart phone หลายรุ่นในขณะนี้ ก็ไม่ได้รองรับการใช้งาน 5G ทั้งหมด แม้กระทั่ง iPhone 11 ก็ยังไม่รองรับ 5G ยกเว้นเรือธง ฝั่ง Android อย่าง  Galaxy  S10,Note 10   และ Huawei Mate 20X

แต่กว่า 5G จะถูกนำมาใช้งานกับคนทั่วไปจริง ๆ อาจจะต้อรออีกสัก 1-2 ปี เพราะช่วงแรกเขาจะเอาคลื่นไปใช้งานกับกลุ่มอุตสาหกรรมก่อน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ต้องใช้งาน IoT (internet of thing) เป็นหลัก

ฉะนั้นแล้ว ไม่ต้องรีบเปลี่ยนมือถือหรอก ง่าย ๆ คือรอให้ค่ายเปิดใช้งาน 5G ให้กับผู้โภคทั่วไปก่อน   และอีกเหตุผลหนึ่งคือ มือถือที่รองรับ 5G ตอนนี้มีราคาค่อนข้างแพงมาก (ซื้อมาทำไม ยังใช้ 5G ไม่ได้) หากผ่านไปอีก 1 ปี จะต้องมีมือถือที่รองรับการใช้งาน 5G วางขายกันเกลื่อนแน่

สรุปคือ ตอนนี้ 5G จะส่งผลกับเราไหม คือส่งผลแน่นอน  ทั้งในด้านความเร็วและความเสถียรที่มากขึ้น แต่อาจจะต้องแลกมากับค่าเน็ตที่แพงขึ้นเหมือนกัน รวมทั้งคลื่น 5G ยังเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เกิดเทคโนโลยีใหม่มากขึ้ โดยจะเป็นรากฐานสำคัญของการใช้เทคโนโลยีไปอีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้า