โดยปกติแล้ว การนำผลงานที่มีลิขสิทธิ์ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นการละเมิด แต่เบื้องหลัง Claude นั้นมีอะไรมากกว่านั้น
ข่าวล่าสุดที่สร้างความประหลาดใจให้วงการเทคโนโลยีและลิขสิทธิ์ คือการที่ Anthropic บริษัทผู้พัฒนา Claude ได้นำหนังสือต่าง ๆ มาใช้ฝึก AI ของตัวเอง และทำให้หนังสือนั้น ถูกทำลายอย่างถาวร และศาลได้ตัดสินว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่าย การใช้งานโดยเป็นธรรมหรือ Fair Use นั่นเอง
วิธีการของ Anthropic คือ ซื้อมา-ทำลาย-สแกน โดย Anthropic ใช้วิธีซื้อหนังสือจริง ทังมือหนึ่งและมือสอง จากนั้นทำการฉีกสันปกออกเพื่อนำเนื้อหาข้างในไปสแกนเป็นไฟล์ดิจิทัล แล้วจึงทำลายหนังสือเล่มจริงทิ้ง กระบวนการนี้มีขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลคุณภาพสูงมหาศาลสำหรับฝึก AI ที่ชื่อว่า Claude
ศาลมองว่าการที่ Anthropic ซื้อหนังสือมาอย่างถูกต้องแล้วเปลี่ยนรูปแบบจากหนังสือจริงเป็นไฟล์ดิจิทัลเพื่อใช้เป็นการภายใน โดยไม่ได้เผยแพร่ไฟล์สแกนสู่สาธารณะ ถือเป็นการกระทำที่เปลี่ยนแปลงเพียงพอ และเมื่อทำลายต้นฉบับทิ้งไป ก็ไม่ได้เพิ่มจำนวนสำเนาขึ้นมาใหม่ จึงเข้าข่ายการใช้งานโดยเป็นธรรม ตามกฎหมายลิขสิทธิ์ของสหรัฐอเมริกา
แม้จะชนะในประเด็นการทำลายหนังสือที่ซื้อมา แต่ศาลก็ตัดสินว่า Anthropic มีความผิดในส่วนที่ใช้หนังสือเถื่อน หรือไฟล์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์มาฝึก AI ด้วย ซึ่งในส่วนนี้บริษัทยังต้องเผชิญกับการพิจารณาคดีด้านลิขสิทธิ์ในเดือนธันวาคม และอาจถูกสั่งปรับเป็นเงินมหาศาล
ผลกระทบต่อวงการ AI คือ คำตัดสินนี้อาจกลายเป็นบรรทัดฐานสำคัญที่เอื้อให้บริษัท AI สามารถนำหนังสือที่มีลิขสิทธิ์มาใช้ฝึกโมเดลของตนได้ ตราบใดที่ได้หนังสือมาอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งอาจช่วยลดอุปสรรคด้านข้อมูลที่เคยเป็นปัญหาใหญ่ของอุตสาหกรรมนี้
ข่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อพัฒนา AI และจุดตัดที่น่าคิดระหว่างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีกับกฎหมายลิขสิทธิ์ที่ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องทั่วโลก
ที่มา