เจ๋งหรือน่ากลัว เดินหน้าสร้าง ของเล่น AI คุยโต้ตอบได้ ไม่รู้จบ

ของเล่น AI

พ่อแม่พร้อมรับมือหรือยัง

โลกของของเล่นเด็กกำลังเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากยุคทามาก็อตจิและเฟอร์บี้ที่เคยฮิต ตอนนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ ของเล่น AI ที่นำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาผสมผสานเพื่อให้การเล่นสนุกและมีมิติมากขึ้น แต่คำถามสำคัญคือ เทคโนโลยีนี้เจ๋งหรือน่ากลัว กันแน่ ของเล่น AI คืออะไร? ทำไมถึงกลายเป็นกระแส

เมื่อเร็วๆ นี้ Gabbo ตุ๊กตานุ่มนิ่มหน้าตาน่ารักได้กลายเป็นไวรัล เมื่อพ่อแม่ลองคุยกับมันแล้วพบว่ามันสามารถโต้ตอบได้อย่างชาญฉลาด พูดคุยถึงเรื่องไดโนเสาร์และรถมอนสเตอร์กับเด็กๆ ได้ ทำให้หลายคนทึ่งในความสามารถ แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงวิจารณ์ว่ามันน่าขนลุกในเวลาเดียวกัน

กระแสนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ของเล่นอินดี้ แต่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Mattel (ผู้ผลิตบาร์บี้) ก็ได้ประกาศร่วมมือกับ OpenAI เพื่อพัฒนาของเล่น AI ของตัวเอง ยิ่งตอกย้ำว่านี่คือเทรนด์แห่งอนาคตที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า

ปฏิเสธไม่ได้ว่าของเล่นอัจฉริยะเหล่านี้มีประโยชน์ที่น่าสนใจและมีข้อดีคือ
เสริมทักษะการสื่อสาร โดยสามารถพูดคุยโต้ตอบกับเด็กได้ไม่รู้จบ
กระตุ้นจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ได้ ชวนเด็กๆ เล่านิทานหรือเล่นบทบาทสมมติ
เป็นแหล่งความรู้ที่ตอบคำถามที่เด็กๆ สงสัยได้หลากหลาย
ปรับตัวตามพัฒนาการได้ สามารถปรับรูปแบบการเล่นให้เข้ากับวัยและความสามารถของเด็กได้

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเตือนถึงข้อควรระวังสำคัญที่พ่อแม่ต้องคำนึงถึง ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ตุ๊กตา AI ให้ลูก

1.ข้อมูลที่ผิดพลาดและอคติ (Bias) ซึ่ง AI ไม่ได้ถูกต้อง 100% และอาจให้ข้อมูลผิดๆ หรือมีอคติแฝงอยู่ ซึ่งเด็กเล็กยังขาดวิจารณญาณในการแยกแยะ ทำให้พวกเขาอาจจดจำข้อมูลที่ผิดเพี้ยนไปตลอด

2.ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เพราะของเล่นที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีความเสี่ยงถูกแฮกข้อมูลส่วนตัวของเด็กได้ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับตุ๊กตา Hello Barbie ในอดีต คำถามคือ ข้อมูลการสนทนาของลูกเราถูกนำไปเก็บไว้ที่ไหน แและปลอดภัยแค่ไหน?

3.ความผูกพันทางอารมณ์ข้างเดียว โดยเด็กอาจสร้างความผูกพันและไว้ใจของเล่น AI เหมือนเพื่อนแท้ แต่ตุ๊กตาเหล่านี้ไม่สามารถมีความรู้สึกตอบกลับได้อย่างแท้จริง สิ่งนี้อาจสร้างโปรไฟล์ข้อมูลเกี่ยวกับอารมณ์และความเปราะบางของเด็ก ซึ่งอาจติดตามตัวพวกเขาไปจนโต

4.ยังไม่มีการทดสอบผลกระทบระยะยาว โดยผู้เชี่ยวชาญย้ำว่าเทคโนโลยีนี้ยังใหม่มาก และยังไม่มีการศึกษาที่ชัดเจนว่ามันส่งผลต่อพัฒนาการและความเชื่อของเด็กในระยะยาวอย่างไร การให้เด็กเล่นจึงเปรียบเสมือนการใช้พวกเขาเป็นหนูทดลองนั่นเอง

แล้วพ่อแม่ควรทำอย่างไร?
1.ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า อย่าเพิ่งรีบกระโจนเข้าหาเทรนด์นี้ พ่อแม่ควรเข้าใจว่าของเล่นเหล่านี้ไม่ใช่ของวิเศษ และยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าดีต่อการเรียนรู้จริง

2.ทางที่ดีที่สุดคือ หากจะใช้ ควรใช้ร่วมกับลูก และใช้โอกาสนี้สอนให้พวกเขารู้จักตั้งคำถามและวิเคราะห์ถึงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจาก AI แทนที่จะปล่อยให้ลูกเล่นตามลำพัง เหมือนกับที่เราเริ่มทบทวนผลกระทบของสมาร์ทโฟนต่อเด็กๆ ของเล่น AI ก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เราควรจะค่อยๆ เดิน ไม่ใช่วิ่งเข้าไปหาอย่างไม่ระมัดระวัง

ที่มา

https://www.huffingtonpost.co.uk/entry/ai-toys-parent-advice_uk_686d13dbe4b0c11188c9aaaf?ncid=flipboard-HP