ขึ้นป้ายวอนลูกค้า เกาหลีแบนคอมตั้งโต๊ะ เลิกเปลี่ยนร้านกาแฟเป็นออฟฟิศ

เกาหลีแบนคอมตั้งโต๊ะ

ภาพที่คุ้นตาของใครหลายคนคือการเห็นลูกค้านั่งจิบกาแฟพร้อมกับทำงานบนโน้ตบุ๊กในร้านสตาร์บัคส์

แต่สำหรับ Starbucks เกาหลีใต้ สถานการณ์กลับบานปลายไปไกลกว่านั้น จนบริษัทต้องออกนโยบายใหม่เพื่อขอให้ลูกค้าบางกลุ่มโปรดเก็บออฟฟิศไว้ที่บ้าน

ปัญหานี้คือ “คากงจก” วัฒนธรรมนั่งทำงานร้านกาแฟที่หนักข้อขึ้น

สื่อเกาหลีใต้ได้บัญญัติศัพท์เรียกคนกลุ่มนี้ว่า “คากงจก” (cagongjok) ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนที่ใช้เวลา ทำงานในคาเฟ่ หรืออ่านหนังสือเป็นเวลานานๆ แต่ล่าสุด วัฒนธรรมร้านกาแฟ นี้ดูจะเกินขอบเขตไปมาก เมื่อมีลูกค้าบางรายนำอุปกรณ์สำนักงานเต็มรูปแบบ ทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ,ปริ้นเตอร์,ปลั๊กพ่วง หรือแม้กระทั่งฉากกั้นส่วนตัวมาติดตั้งใน ร้านกาแฟเกาหลี จนกลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดีย

ด้วยเหตุนี้ Starbucks เกาหลี จึงได้ติดป้ายประกาศทั่วประเทศ ขอความร่วมมือไม่ให้ลูกค้านำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้ามาใช้ในร้าน พร้อมทั้งขอให้ลูกค้าที่มาคนเดียวช่วยแบ่งปันที่นั่งบนโต๊ะใหญ่ และไม่วางของจองที่เป็นเวลานานเกินไป เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีและลดความเสี่ยงที่ทรัพย์สินจะสูญหาย

ข้อมูลจากสถาบันวิจัยอุตสาหกรรมอาหารเกาหลีในปี 2019 ระบุว่า กาแฟราคาประมาณ 100 บาท จะสามารถครอบคลุมค่าที่นั่งของลูกค้าได้เพียง 1 ชั่วโมง 42 นาทีเท่านั้น หากลูกค้านั่งนานกว่านั้น ทางร้านจะเริ่มไม่คุ้มทุน เนื่องจากต้องแบกรับค่าไฟฟ้าจากการชาร์จอุปกรณ์ และยังเสียโอกาสในการขายให้กับลูกค้ารายอื่นที่ไม่มีที่นั่ง

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องย้ำคือ Starbucks ไม่ได้มีนโยบาย ห้ามใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ตเพื่อ นั่งทำงานร้านกาแฟ แต่อย่างใด มาตรการนี้มุ่งเป้าไปที่การใช้อุปกรณ์สำนักงานขนาดใหญ่ที่อาจรบกวนบรรยากาศและลูกค้าท่านอื่นเท่านั้น

ที่มา

techspot