[เมืองแพทย์สุดล้ำ] เคยสงสัยไหมว่า ทำไมอุปกรณ์ทางการแพทย์ถึงได้มีราคามากเหลือเกิน ? แต่เหนือกว่าความสงสัยดังกล่าว ก็คงต้องถามให้ถูกต้องว่า “ในยุค AI นี้ จะมีเทคโนโลยีอะไรที่สามารถรักษาร่างกายเราได้” บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จับมือพันธมิตรภาครัฐและเอกชน จัดงานมหกรรมเทคโนโลยีแพทย์นานาชาติ MEDICAL FAIR THAILAND 2025 งานแสดงนวัตกรรมทางการแพทย์ระดับโลกในไทย
เพื่อตอกย้ำศักยภาพทางการแพทย์ของไทย กระทรวงสาธารณสุข สภาอุตสาหกรรมฯ สมาคมโรงพยาบาลเอกชนของไทย ร่วมมือกับบริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย ผู้จัดงานแสดงสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก เตรียมจัดมหกรรมโชว์เทคโนโลยีแพทย์นานาชาติอย่าง MEDICAL FAIR THAILAND 2025 ที่จะมาแสดงทั้งนวัตกรรมทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ และบริการสุขภาพระดับนานาชาติ ที่รวมผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมการแพทย์เข้าด้วยกัน ซึ่งมีทั้งผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพกว่า 1,000 ราย จากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก รวมทั้ง 20 พาวิลเลียนไทยและนานาชาติ มาจัดแสดงอุปกรณ์และเวชภัณฑ์อย่างครบวงจร บนพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร วันที่ 10–12 กันยายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
“สัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปในกลุ่มประเทศอาเซียน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 22.2% ภายในปี 2593 ซึ่งเป็นสัญญาณและแรงกดดันต่อระบบสาธารณสุข และมีความจำเป็นเร่งด่วนในการขยายโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาบริการดูแลผู้สูงอายุ และโซลูชันใหม่ๆ เพื่อการดูแลเชิงป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง ”
ข้อมูลสำคัญจาก มร.เกอร์นอท ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย ที่ได้เผยถึงความต้องการด้านการดูแลสุขภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ในภาวะการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยคาดว่าประชากรในภูมิภาคนี้จะมีจำนวนเกิน 722 ล้านคนภายในปี 2573 ด้วยปัจจัยจากการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุควบคู่กับการขยายตัวของชนชั้นกลาง ซึ่งก็กำลังผลักดันให้เกิดความต้องการบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพสูง เข้าถึงได้ และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
ด้วยเหตุนี้เอง ทางกระทรวงสาธารณสุข สภาอุตสาหกรรมฯ และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ก็เผยความพร้อมของระบบการแพทย์ไทย และต้องการผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็น “เมืองแพทย์สุดล้ำ” หรือศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) ของภูมิภาคอย่างเต็มรูปแบบ และก้าวสู่ฮับสุขภาพระดับนานาชาติ เพื่้อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจสุขภาพ 6.9 แสนล้านบาท พร้อมดันจีดีพีโต 3.39 % กันเลย
สำหรับงาน MEDICAL FAIR THAILAND 2025 ครั้งนี้ ก็จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการลงทุนในอุตสาหกรรม MedTech และ HealthTech ของประเทศ ซึ่งมีศักยภาพในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนอย่างต่อเนื่องนับพันล้านบาทในอนาคต ภายใต้วิสัยทัศน์ระยะยาวเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นฮับการแพทย์ระดับภูมิภาค งานนี้จะเป็นเวทีสำคัญเชื่อมโยงนวัตกรรมไทยกับพันธมิตรทั่วภูมิภาค สร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาระบบนิเวศด้านการดูแลสุขภาพของอาเซียน การจัดงานครั้งนี้นับเป็นปีที่ 11 แล้ว โดยมุ่งมั่นที่จะขยายแพลตฟอร์มของงานให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการอุตสาหกรรมการแพทย์ของภูมิภาค”
เพื่อเข้าถึงภาพรวมและความสำคัญของงาน MEDICAL FAIR THAILAND 2025 มากขึ้น ในงานแถลงข่าวก็มีการเชิญ ‘คีย์แมน’ คนสำคัญจากทั่งฝั่งรัฐบาลและเอกชน มาให้มุมมองที่ที่เกี่ยวข้องกับงานด้วย โดยมีใจความสำคัญตามนี้
นวัตกรรมต้องมาพร้อมความปลอดภัย
ว่าด้วยเป้าหมายใหญ่ของไทยอย่างการเป็น ‘ศูนย์กลางการแพทย์’ นั้น ทางนายอดุลย์ ขมิ้นเขียว ผู้อำนวยการกองวิศวกรรมการแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงเป้าหมายนี้ว่าไทยต้องขับเคลื่อนด้วย 2 พลังสำคัญ คือ นวัตกรรม (เช่น AI, Telemedicine) และ ความปลอดภัย เพราะเทคโนโลยีจะล้ำแค่ไหน แต่ถ้าคนไม่ไว้ใจก็ไม่มีประโยชน์ ฉะนั้นจึงต้องมีการผลักดันมาตรฐานกลางที่เรียกว่า ‘HS4’ มาตรฐานระบบบริการสุขภาพ เพื่อให้ทุกโรงพยาบาลมีคุณภาพและความปลอดภัยในระดับเดียวกัน ตั้งแต่การบริหาร, อาคารสถานที่, ไปจนถึงเครื่องมือแพทย์ ฉะนั้นต้องมีการใช้นวัตกรรมแพทย์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เพื่อยกระดับการรักษาให้แม่นยำและปลอดภัยนี้ ในงาน MEDICAL FAIR 2025 ก็คือเวทีสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมเรื่องนี้เอง
สร้างในไทย ใช้ในไทย ส่งออกทั่วโลก
นายจารุเดช คุณะดิลก ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ (MeDIC) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงตลาดการแพทย์ที่กำลังโตมากขึ้น และการส่งออกเครื่องมือแพทย์ของไทยก็ทำได้ดีด้วย (เผยปี 2567 มีส่งออกมูลค่ากว่า 1.3 แสนล้านบาท) แต่ก็มีเป้าหมายสำคัญอย่างการผลักดันอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ให้เป็น ‘อุตสาหกรรมดาวรุ่งดวงใหม่’ (New S-Curve) ของประเทศ เพื่อสร้างเศรษฐกิจ, สร้างงาน, และที่สำคัญคือ ลดการนำเข้า เครื่องมือแพทย์ราคาแพงจากต่างประเทศนี้เอง ซึ่งต้องทำอย่างไร ให้เกิดการสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ผลิต , นักวิจัย , โรงพยาบาล และนักลงทุน โดยมีภาครัฐคอยสนับสนุน สรุปงานนี้คือโอกาสสำคัญที่ผู้ผลิตของไทยจะได้โชว์ของ , หาพันธมิตรจากทั่วโลก และยกระดับอุตสาหกรรมให้เติบโตมากขึ้น
ปรับตัวด้วยนวัตกรรมไทย เพื่อความคุ้มค่า
นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เผยถึงสถานการณ์ของโรงพยาบาลเอกชนในไทย กำลังเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจโลก , เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว , และพฤติกรรมผู้ป่วยที่คาดหวังคุณภาพการรักษาที่คุ้มค่ามากขึ้น เป็นเหตุให้ต้องปรับกลยุทธ์ โดยหันมาส่งเสริมการลงทุน และใช้นวัตกรรมการแพทย์ที่ผลิตในประเทศไทยมากขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพการรักษาให้ทัดเทียมนานาชาติ โดยทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงเทคโนโลยีดี ๆ ได้ง่ายขึ้น และช่วยลดต้นทุนจากการนำเข้าอุปกรณ์ราคาแพง ซึ่งจะทำให้ระบบโดยรวมยั่งยืนกว่า การสนับสนุนนวัตกรรมแบรนด์ไทยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งผลักดัน เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการสาธารณสุข
เวทีแจ้งเกิดสตาร์ทอัพ HealthTech
สุดท้ายนี้ก็มี มร. คริส แมคควิน กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ KAOUN International ผู้จัดงาน GITEX Digi-Health & Biotech Thailand ได้กล่าวถึงครั้งนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า งานของตนเองจะจัดควบคู่ไปกับงาน MEDICAL FAIR ด้วย โดยเน้นไปที่โลกดิจิทัลโดยเฉพาะ เช่น Digital Health, Biotech, AI และ Telemedicine พร้อมเปิดไฮไลต์เด็ดอย่างการจัดเวทีประกวดไอเดียสำหรับสตาร์ทอัพ (Supernova Pitch Competition) เพื่อเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรด้าน HealthTech โดยมีรางวัลให้ผู้ชนะถึง 10,000 ดอลลาร์ฯ หรือประมาณ 3.2 แสนบาท เพื่อช่วยโอกาสต่อยอดธุรกิจสู่ระดับโลก พร้อมเผยอีกว่างานนี้ คือการผนึกกำลังเพื่อสร้างพื้นที่ให้ สตาร์ทอัพสายสุขภาพ ได้แจ้งเกิด พบปะนักลงทุน และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอนาคตของการแพทย์
ไฮไลท์ในงาน MEDICAL FAIR THIALAND 2025
LaunchPad Zone – พื้นที่สำหรับผู้ร่วมแสดงสินค้าที่จะมาเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีล่าสุด โดยแพลตฟอร์มนี้เปิดโอกาสให้บริษัทต่างๆได้นำเสนอนวัตกรรมและโซลูชันล้ำสมัยโดยตรงแก่กลุ่มเป้าหมายซึ่งประกอบด้วย ผู้จัดจำหน่าย ผู้ซื้อ และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือ จุดประกายโอกาสทางธุรกิจ และเร่งเข้าสู่ตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
Community Care Zone – พื้นที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ โซลูชัน และเทคโนโลยีด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ การดูแลผู้สูงอายุ และสุขภาพชุมชน กว่า 100 รายการ มุ่งเน้นการแสดงนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สนับสนุนการใช้ชีวิตอย่างอิสระ และเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูสุขภาพ ตั้งแต่อุปกรณ์ช่วยการเคลื่อนไหวขั้นสูงและอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ ไปจนถึงโซลูชันการดูแลแบบบูรณาการสำหรับสังคมผู้สูงอายุ
Medical Manufacturing Zone –พื้นที่จัดแสดงโซลูชันการผลิตและการสร้างเครื่องมือแพทย์ นำเสนอโอกาสสำคัญสำหรับผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ในการแสดงศักยภาพด้านวิศวกรรมแม่นยำ ผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง และเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ
WT | Wearable Technologies Conference – การประชุมว่าด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอุปกรณ์สวมใส่และการประยุกต์ใช้ในด้านสุขภาพ กีฬา และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ตั้งแต่การจัดการโรคเรื้อรังและการตรวจพบโรคในระยะเริ่มต้น ไปจนถึงการแพทย์ทางไกลและการติดตามอาการผู้ป่วยจากระยะไกล โดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจะมาแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและความก้าวหน้าในการดูแลผู้ป่วย การติดตามสมรรถภาพ และโซลูชันสุขภาพผ่านอุปกรณ์สวมใส่
“เมสเซ่ ดุสเซดอร์ฟ เอเชีย ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรม MedTech ในเอเชียที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากการสำรวจล่าสุดพบว่า ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APAC) มีสัดส่วนการใช้จ่ายด้าน MedTech คิดเป็นราว 30% ของตลาดโลก โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดจะอยู่ที่ 121-140 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐภายในปี 2568 ทางด้านอาเซียน มีประชากรกว่า 678 ล้านคน และมี GDP รวม 3.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 (เพิ่มขึ้นจาก 3.8 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 2566) ซึ่งสะท้อนถึงน้ำหนักทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยจากความต้องการด้านการดูแลสุขภาพ ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยการขยายตัวของชนชั้นกลาง การเข้าถึงระบบประกันสุขภาพที่ครอบคลุมมากขึ้น ตลอดจนการนำโมเดลการดูแลสุขภาพดิจิทัลและการขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมาใช้อย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค”
ทั้งนี้ Medical Fair Thailand 2025 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 กันยายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าร่วมชมงานล่วงหน้า ได้ที่ www.medicalfair-thailand.com” มร. เกอร์นอท กล่าวเพิ่มเติม
