เบื้องหลัง World ID โปรเจคสแกนม่านตา ยืนยันความเป็นมนุษย์

[เปิดเบื้องหลัง] หลากหลายคำถามเกี่ยวกับ World หรือ World ID ระบบยืนยันความเป็นมนุษย์ ว่าแท้จริงแล้วมัน ‘ปลอดภัย’ หรือไม่ จะโดนเอาข้อมูลชีวมาตร (Biometrics) ไปใช้ในทางมิชอบหรือไม่ และ Worldcoin (WLD) สกุลเงินดิจิทัลที่ได้มา ก็มี ‘ข้อแลกเปลี่ยน’ อะไรให้น่ากังวลไหม ล่าสุดทาง World Thailand ได้ส่งรายงานชี้แจ้งถึงเบื้องหลังของระบบยืนยันตัวตนดังกล่าว โดยยืนยันถึงมาตรการด้านความปลอดภัยไว้ตามนี้

รหัสตัวเลข “Iris Code”

อย่างแรกคือการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ทาง World ระบุเลยว่า ‘ไม่รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล’ อาทิ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน และไม่มีการซื้อ เก็บ หรือขายข้อมูลชีวมิติ อย่างไรก็ตาม World ID ก็มีการขอสแกนม่านตาผ่านเครื่องกลม ๆ ที่เรียกว่า Orb ซึ่งถือได้ว่าเป็นข้อมูล Biometrics ที่สำคัญมาก ในจุดนี้ทาง World เผยมีการใช้ Iris Code คือเปลี่ยนภาพม่านตาให้เป็นรหัสตัวเลขแทน ซึ่งเป็นรหัสตัวเลขที่ไม่สามารถย้อนกลับไปเป็นภาพต้นฉบับได้ ข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งเข้าไปในอุปกรณ์ของผู้ใช้งานเท่านั้น หลังจากนั้น Orb จะลบภาพทั้งหมดออกทันที

ส่วนประกอบตัว Orb ทั้งหมด

เพื่อเป็นการยืนยันว่า ‘ลบจริง’ กับข้อมูลถูกแปลงแบบ ‘ย้อนกลับไม่ได้’ จริง ทาง World ก็มีการเปิดเผยซอร์สโค้ดสาธารณะ ผ่านเว็บ Github ที่สามารถเข้าดูได้อย่างละเอียด และตรวจสอบได้ พร้อมระบุว่าผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยแล้ว ซึ่งตรวจสอบโดยบุคคลที่สามที่เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับโลก ซึ่งจริงแท้แค้ไหนนั้น ก็ลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://world.org/th-th/open-source

Worldcoin โทเคนแจกฟรี

สำหรับผู้ที่ไปสแกนม่านตาผ่านเครื่อง Orb ที่ประจำอยู่ตามห้างดังหรือร้านค้าไอทีมากมายในไทยนั้น หลายคนก็ทราบกันดีว่า “สแกนแล้วได้เงิน” แต่การในเงินในที่นี้คือ Cryptocurrency หรือสกุลเงินดิจิตอลในชื่อว่า Worldcoin ซึ่งหากได้มาแล้ว ก็ต้องเอาไปแปลงเป็นเงินสดเอาเอง แปลงเป็นเงินบาทได้เฉพาะผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ทาง World จึงยืนยันเลยว่าไม่มีการแจกเงินสด

อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดิจิตอลก็ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่า (ตามแต่สกุลเงินดิจิตอลนั้น ๆ) สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ แม้จะกล่าวว่า “ไม่แจกเงินสด” แต่ก็มีผลตอบแทนจริง ๆ ใครที่มีแอปฯ แลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอล ก็สามารถรับเงินสดได้ในภาย 1 – 2 วัน โดย ณ ปัจจุบัน (28/08/68) ก็มี Worldcoin ถูกแจกไปแล้วถึง 1,885,777,242 WLD และคงเหลือที่ 8,114,222,758 WLD ผ่านผู้ใช้ที่ยืนยันตัวตนถึง 33,337,696 ราย เท่ากับว่าทาง World มีการกำหนดจำนวนเงินดิจิตอลไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงมองได้ว่านี่คือการ “ซื้อผู้ใช้” ด้วย WLD ส่วนผู้ใช้ก็ให้ข้อมูลที่ถูกแปลงเป็น Iris Code กลับมา หวังว่าข้อมูลที่ถูกแปลงนี้ จะไม่ถูกเอาไปขายต่อหรือแสวงกำไร และยืนยันความปลอดภัยได้จริง

ตัวอย่างการใช้งาน World ID

สุดท้ายนี้คือการนำ World ID มาใช้กับบริการเด่น ๆ ในไทย ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็มีการใช้งานแล้วตามนี้

  • Pantip.com ที่จะช่วยให้การถาม-ตอบข้อมูลภายในอินเทอร์เน็ตน่าเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น
  • แอปฯ Whoscall (Gogolook) เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ และยืนยันว่าเบอร์โทรศัพท์เป็นบุคคลจริงๆ ช่วยลดปัญหามิจฉาชีพและการหลอกลวงต่างๆ
  • ระบบจองตั๋ว Eventpop ป้องกันบอทในจองตั๋ว เช่น การกดบัตรคอนเสิร์ต , แฟนมีตติ้ง , เวิร์กช็อป , งานสัมมนา และคอร์สเรียน
  • เกม (ที่เรารัก…) Ragnarok (Zentry) ทำให้การเล่นเกมกลับมาสนุกอีกครั้ง ขจัดการใช้บอทโกงในการเล่นเกมให้หมดไป แข่งขันกับมนุษย์จริง

และยังมีอีกหลายบริการในอนาคต ที่อยู่ระหว่างดำเนินการนำ World ไปร่วมใช้งาน กับขอยืนยันว่าไม่มีนโยบายขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ (แต่ในแอปฯ มีการใช้นะเออ) ข้อมูลบัตรเครดิต หรือรหัส OTP และไม่มีการว่าจ้างบุคคลที่สาม เพื่อจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว พร้อมขอให้ระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจแอบอ้างชื่อของ World ด้วย

แม้ทาง World จะมีการชี้แจงมาตรการด้านความปลอดภัย แต่สุดท้ายนี้ก็ขอให้ทุกคนใช้ ‘วิจารณญาณ’ ด้วยตนเอง โดยบทความนี้ไม่ได้ต้องการชี้นำหรือแนะนำ หากใครอยากยืนยันหรือไม่ยืนยัน ก็สุดแต่วิจารณญาณเลย เพราะอย่างไรก็ตามข้อมูลชีวมาตร (Biometrics) ก็เป็นข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญยิ่ง

ที่มา : World ID Thailand