ราคาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า กำลังจะลดลงอย่างมหาศาล ซึ่งจะส่งผลให้ในอีก 2-4 ปีข้างหน้า ราคารถ EV ในยุโรปจะถูกกว่าราคารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ส่วนในประเทศจีนนั้น เทรนด์นี้ได้เริ่มขึ้นแล้วกับรถบางรุ่น
ปัจจุบัน ค่ายรถยุโรปยังตั้งราคารถ EV ไว้สูงเพื่อที่จะได้ขายรถยนต์สันดาปที่กำไรดีให้หมดสต็อกไปก่อน ซึ่งสถานการณ์นี้กลับเป็นผลดีกับค่ายรถจีนที่เข้ามาทำตลาด โดยตั้งราคาใกล้เคียงกับค่ายรถยุโรปและทำกำไรได้สูงกว่าที่เคยทำได้ในประเทศตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญและบริษัทใหญ่อย่าง CATL และ BYD คาดการณ์ว่า ใน 5 ปีข้างหน้า ราคาแบตเตอรี่จะลดลงถึง 70%
ตัวอย่างเช่น แบตเตอรี่ขนาด 100 kWh ที่ปัจจุบันมีราคาราว 15,000 ยูโร (ประมาณ 600,000 บาท) จะลดลงเหลือไม่ถึง 5,000 ยูโร (ประมาณ 200,000 บาท) การลดลงของต้นทุนมหาศาลนี้ จะทำให้ค่ายรถยนต์อย่าง Volvo ที่ตั้งเป้าเลิกผลิตรถสันดาปภายในปี 2030 ตัดสินใจลดราคาขายรถ EV ลงเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด และค่ายอื่นๆ ก็จะต้องทำตามเพื่อแข่งขัน
นอกจากนี้ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ยังจะมีความจุสูงขึ้น ทำให้ในอนาคตเราอาจได้เห็นรถ EV ที่มีแบตเตอรี่ 120 kWh ในราคาเท่าเดิม ซึ่งจะช่วยขจัดความกังวลเรื่องระยะทางวิ่ง (Charging Anxiety) ให้หมดไป
ใครมีแผนจะซื้อรถใหม่ มารอลุ้นราคากันก่อนดีไหมนะ
ที่มา
