[สไลค์สวยคม] ยังไม่รู้ว่า Power Point กับ Canva ตัวไหนดีกว่ากัน แต่ที่แน่ ๆ โปรเจคเตอร์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง วันนี้พบกับ BenQ LH730 ชูเป็น Meeting Room Projector หรือ โปรเจคเตอร์สำหรับใช้ในห้องประชุม เน้นพรีเซนต์งานโดยเฉพาะ

แน่นอนว่าการพรีเซนต์งานนั้น ความคมชัดคือสิ่งสำคัญ และต้องชัดแม้ในห้องที่มีความสว่างมากอย่างในห้องประชุมด้วย โดยตัวเครื่องก็มาพร้อมมาตราฐานสี Rec.709 ถึง  98% ปรับแนวภาพได้หลากหลาย และมี 4LED Technology ให้อายุการใช้งานได้มากถึง 30,000 ชั่วโมง ใช้งานได้ยาว ๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนหลอดฉาย ซึ่งจะใช้งานได้ดีขนาดไหน และนอกจากใช้พรีเซนต์งานแล้ว เอาไปดูหนังหรือความบันเทิงได้ดีเหมือนกันไหม ลองมาดูกันครับ

ฟีเจอร์เด่น BenQ LH730 Meeting Room Projector

• Up to 30,000 hours LED lifespan with no lamp replacement
• 98% Rec.709 color coverage for great color saturation and precision
• Flexible Installation Features: 2D & Auto Vertical keystone, Corner Fit, and Digital Shrink
• Compatible with 4K HDR and HLG via dual HDMI 2.0

อุปกรณ์ในกล่อง

ตัวรีโมท กับปุ่มกดที่ไม่เยอะจนเกินไป

BenQ Projector LH730

หน้าตาตัวเครื่องก็มาแบบเรียบ ๆ คือเน้นใช้ในห้องประชุมจริง ๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่คือโปรเจคเตอร์ราคาระดับ 5X,XXX บาท และเป็นโปรเจคเตอร์ที่เน้นใช้ในห้องประชุม ซึ่งน่าสนใจว่าตัวโปรเจคเตอร์มีความต่างกับรุ่นอื่น ๆ อย่างไรบ้าง ลองมาดูกัน

อนึ่งตัวเครื่องสามารถติดตั้งแบบแขวนเพดานได้ เหมาะสำหรับใช้ในห้องประชุมโดยแท้

การตั้งค่า

ในตอนเปิดเครื่องใช้งานครั้งแรก Default แรกที่เจอเลยคือ ‘จอกลับด้าน’ เข้าใจได้ว่าตัวเครื่องเน้นใช้ในห้องประชุม จึงเน้นให้ติดตั้งใช้งานแบบติดเพดานด้วย แต่หากอยากใช้ตั้งโต๊ะแบบง่าย ๆ ก็ทำได้ แต่อาจต้องตั้งค่าใช้งานกันก่อน

ใช้เวลาเปิดเครื่องไม่นานมาก

ตั้งค่าในส่วนนี้

หากใช้แบบตั้งโต๊ะ ตัวอักษรอธิบายพอร์ตเชื่อมต่อก็จะกลับด้านตามสภาพ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา หากคุ้นชินกับพอร์ต HDMI , VGA และ USB-A อยู่แล้ว อนึ่งพอร์ต LAN ก็มีไว้สำหรับเชื่อมต่อตัวเครื่องเข้ากับระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อใช้ฟีเจอร์ ‘แชร์จอ’ ได้ง่าย ๆ นั้นเอง

ในหน้า Home Screen ก็มีบอกรายละเอียดการเชื่อมต่อกับแพลต์ฟอร์มต่าง ๆ ไว้หลากหลายแบบ ทั้ง Windows , MacOS กับผ่านอุปกรณ์พกพาได้ทั้ง iOS และ Android สุดท้ายคือการเชื่อมต่อผ่่าน Wi-Fi เพื่อแชร์จอแบบไร้สายได้ โดยไม่ต้องต่อสายให้เกะกะ ช่วยเปลี่ยนห้องประชุมธรรมดาเป็นสมาร์ทออฟฟิศได้ง่ายๆ

ในส่วนการตั้งค่าหลัก ๆ จุดนี้ก็เห็นเลยว่า มันคือโปรเจคเตอร์พรีเซนต์งานจริง ๆ โหมดหลัก ๆ ก็เน้นใช้ในห้องประชุมจริง ๆ อาทิ  Infographic Mode , Presentation Mode , Spreadsheet Mode และ Video Conference 

หากภาพที่ฉายมันเบี้ยวไปหน่อย ก็สามารถปรับให้ตรงได้ผ่าน ‘แก้ไขภาพบิดเบี้ยว 2D’ กับ ‘เข้ามุม’ อาจต้องใช้เวลาส่วนนี้นิด ๆ เพราะตัวเครื่องไม่ได้มีฟีเจอร์ช่วยปรับภาพให้ตรงโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้ต้องปรับเอาเอง ซึ่งหากใช้ในห้องประชุม ตัวเครื่องคงถูกล็อคติดอยู่กับที่ ฉะนั้นการตั้งค่าภาพบิดเบี้ยวก็คงทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเลย

รายละเอียดสเปกเด่น ๆ ตัวเครื่อง รองรับความละเอียด 1080p หรือ Full HD

ประสิทธิภาพ

คมชัดแม้ในห้องสว่าง ผลคือคมชัดจริง แม้ในห้องประชุมที่เปิดไฟทุกดวง ตัวเครื่อง BenQ LH730 ก็ยังสามารถฉายภาพได้ชัดเจน แต่แน่นอนว่าหากปิดไฟแล้วจะชัดขนาดไหน ก็รอดูได้เลย

ลองทดสอบการพรีเซนต์งาน ตัวเครื่องก็สามารถฉายรายละเอียดได้คมมาก ๆ เห็น Text เห็น Info ได้ชัดเจนดี แม้ใช้งานครั้งแรกแทบไม่ต้องตั้งค่าอะไรล่วงหน้าเลย

ลองทดสอบโหมด Infographic ที่ช่วยเน้นให้ภาพ Info คมชัดขึ้นมาอีก ในภาพอาจเห็นไม่ชัด แต่ดูจากสายตาแล้ว ก็พบว่าตัวภาพที่มีส่วน Info มีสีสันที่เข้มขึ้นมาอีกนิด ๆ เลย

นอกจากใช้พรีเซนต์งานแล้ว ตัวเครื่องยังสามารถใช้เป็นโปรเจคเตอร์สายบันเทิงอย่าง ดูหนัง หรือ เล่นเกม ได้ดีไหม ผลคือก็ใช้งานได้ แต่สเปกตัวเครื่องที่รองรับความละเอียด 1080p พร้อมราคาระดับ 50K ตัวเครื่องอาจไม่เหมาะกับการใช้งานนี้มากนัก

ลองดูเทสคลิปเกม ตัวเครื่องก็ยังสามารถภายภาพได้คม และยิ่งคมขึ้นไปอีก หากปิดไฟ LED ภายในห้อง

สุุดท้ายคือ ECO Mode เป็นโหมดพิเศษ ที่ช่วยยึดอายุการใช้งานตัวเครื่องหรือหลอดภาพแล้ว พร้อมเปิดใช้งานในโหมด ECO ก็ช่วยให้ตัวเครื่องอยู่ได้ยาว ๆ ถึง 30,000 ชั่วโมงตามสเปก ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหลอดไฟ ประหยัดค่าไฟ และค่าบำรุงรักษาไปได้มากพอสมควร

สรุป

หากใครจำสมัย ‘เครื่องฉายข้ามศีรษะ’ ได้ ทุกครั้งที่มีการใช้งาน ก็จำเป็นต้องปิดไฟห้องเสมอ เพื่อให้เห็นภาพที่ฉายจากเครื่องได้ชัด แต่หากเป็นโปรเจคเตอร์สมัยใหม่ และยิ่งเป็นรุ่นที่ใช้สำหรับห้องประชุมโดยเฉพาะอย่าง BenQ LH730 รุ่นนี้ ก็สามารถใช้แบบไม่ต้องปิดไฟห้องได้สบาย ๆ คมชัดแม้ในที่สว่าง มองเห็นสไลค์ได้อย่างชัดเจนทุกสภาวะ

จุดเด่นหลัก ๆ ของ BenQ LH730 คืออายุการใช้งาน ที่มีมากถึง 30,000 ชั่วโมง หากเปิดใช้งานในโหมด ECO ก็ช่วยให้ตัวเครื่องอยู่ได้ยาว ๆ ตามสเปก ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหลอดไฟและบำรุงรักษาไปได้

ถัดมาคือความคมชัด ผ่านเทคโนโลยีฉายแสงแบบ 4LED กับมาพร้อมมาตราฐานสี Rec.709 ถึง 98% ก็คมจริงอะไรจริง ทั้งนี้ตัวเครื่องยังมีโหมดการพรีเซนต์ให้โดยเฉพาะ และมาเลย 3 แบบ อาทิ Infographic Mode , Presentation Mode และ Spreadsheet Mode ช่วยให้เห็นงานพรีเซนต์ได้คมกว่าเคย

ท้ายนี้ตัว BenQ LH730 เปิดราคาที่ 52,900 บาท มาพร้อมการรับประกันตัวเครื่อง 3 ปี หลอดภาพ 1 ปีหรือ 1,000 ชม. ดูรายละเอียดตัวเครื่องเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/42MeLeN

ช่องทางติดต่อ BenQ Thailand

• https://www.facebook.com/BenQThailand
• โทร 02 117 1420