พาเดินงาน Digital Thailand 2016 มีอะไรมากกว่าแค่ชื่อ

งาน Digital Thailand 2016 เปิดฉากเริ่มขึ้นแล้ว การจัดงานมีขึ้นระหว่างวันที่ 26-28 พฤษภาคม 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นงานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อประกาศความพร้อมและแสดงจุดยืนของประเทศในการก้าวเข้าสู่ Insdustry 4.0 การผลิกโฉมอุตสาหกรรมยุคใหม่ ผสานเทคโนโลยีสู่ยุค IoT ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนในการออกบูธเพื่อแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับการยกระดับอุตสาหกรรมในทุกด้านของประเทศ ตลอดจนกิจกรรมมการส่งเสริมและสร้างความเข้าใจในด้านไอทีให้กับประชาชน เพื่อนำไปสู่การเป็นสังคมยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

ก่อนเข้างานจะต้องลงทะเบียนจากคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าเพลนารี ฮอลล์ เมื่อเราลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วจะมีสติ๊กเกอร์ที่ระบุชื่อ-นามสกุล พร้อมสังกัดการศึกษาหรือที่ทำงาน และบาร์โค้ดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทางเข้าได้สแกนเพื่อเป็นการยืนยันตัวตน เมื่อเข้ามาในเพลนารี ฮอลล์ จะพบกับบูธ Royal Pavilion โซนสำหรับทุกคนเพื่อลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านหน้าจอทัชสกรีนยักษ์ พร้อมร่วมรับชมพระราชกรณียกิจของพระองค์ด้วย

digital-1

สำหรับงาน Digital Thailand 2016 ภายในเพลนารี ฮอลล์ จะแบ่งออกเป็น 6 โซนหลักๆ ได้แก่

1. Digital Connectivity โซนจัดแสดงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และตัวอย่าง Smart City เมืองอัจฉริยะโดย 3 ค่ายยักษ์ใหญ่ด้านการสื่อสารอย่าง AIS, True, DTAC มาร่วมแสดงพลังแห่งเทคโนโลยีกันอย่างพร้อมเพรียง ร่วมไปถึง กสทช., CAT, CISCO และบริษัทอื่นๆ

งาน Digital Thailand 2016

งาน Digital Thailand 2016
หุ่นยนต์จาก IBM โดย Aldebaran Robotics จะทำอะไรได้บ้าง ไปร่วมสัมผัสได้ที่งาน Digital Thailand 2016

digital-thailand-03

digital-thailand-04

digital-thailand-05

digital-thailand-07

ในบูธ CISCO มีการนำเทคโนโลยีด้านการจราจร การจอดรถมาแนะนำและความรู้ด้วย

2. Digital Economy โซนแสดงเทคโนโลยีในภาคอุตสาหกรรม

3. Digital Society โซนจัดแสดงเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ด้านการแพทย์และสุขภาพ

digital-thailand-08

ตัวอย่างเช่น ในบูธของ Intel Healthcare เป็นการแสดงเทคโนโลยีด้านสุขภาพ โดยหนึ่งในอุปกรณ์ที่นำมาเสนอเรียกว่า BPL Life Phone Plus สามารถวัดคลื่นหัวใจ, วัดน้ำตาลในเลือด และการนับก้าว ใช้เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะผ่านบลูทูธ เป็นอุปกรณ์ประจำตัวผู้ป่วยเพื่อใช้งานด้วยตัวเอง สามารถส่งข้อมูลไปยังแพทย์ผู้ดูแล พร้อมรับคำแนะนำจากแพทย์ในการรักษาบางโรคในเบื้องต้นได้โดยไม่ต้องเดินทางไปยังโรงพยาบาล ซึ่งการใช้งาน เช่น การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เพียงแค่นำเครื่องกดเข้าที่บริเวณชีพจรสักครู่ประมาณ 10 วินาที ตัวเครื่องก็จะส่งข้อมูลไปยังแอพและรายงานเป็นกราฟแสดงคลื่นหัวใจให้เรารู้

digital-thailand-0012

4. Digital Government โซนการแสดงเทคโนโลยีดิจิตอลของภาครัฐ

5. Digital Workforce โซนพัฒนาบุคลากรด้านดิจิตอล พร้อมเสริมสร้างทักษะทางเทคโนโลยี

digital-thailand-0013
บูธ IDCL สำหรับผู้ที่ต้องการวัดทักษะด้านไอที
digital-thailand-0014
บูธ Echo English แอพฝึกภาษา ที่ช่วยให้เราสามารถฝึกการอ่านออกเสียงภาษาต่างประเทศได้ด้วยตัวเอง

6. Digital Trust โซนดิจิทัลด้านการเงิน ความปลอดภัยด้านการใช้จ่ายออนไลน์ ซึ่งจะมีบูธจากธนาคารกสิกรไทย, ออมสิน, กรุงเทพ, กรุงไทย รวมถึงร้านค้าออนไลน์อย่าง LAZADA มาร่วมให้ข้อมูล

digital-thailand-0015

 นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมและบูธจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีอีกมากมาย อาทิ

-บูธจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่นำเสนอเทคโนโลยี “โดรน” รุ่นใหม่ที่คิดค้นขึ้น ในชื่อ UAV Project (Unmanned Aerial Vehicle) มีหน้าที่ตรวจวัดสภาพอากาศขนาดเล็ก มีความคล่องตัวในการใช้งานและดูแลรักษา มีเซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้น ฝุ่นละอองความเร็วลม ทิศทางลมและปริมาณน้ำฝน และส่งข้อมูลออนไลน์ผ่านโมดูลเครือข่ายไร้สาย

digital-thailand-0020

ภายในบูธของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังมีการแสดงตู้ Recycling is fun เครื่องเปลี่ยนขวดน้ำพลาสติกให้เป็นเงิน เป็นการนำขวดน้ำพลาสติกที่ใช้แล้วมาเข้าเครื่องแสกน โดยเซนเซอร์จะแสกนจุดที่เป็นคิวอาร์โค้ดที่บริเวณขวดน้ำเพื่อทำการวิเคราะห์ว่าเป็นขวดน้ำประเภทใด พร้อมกับคำนวณออกมาเป็นจำนวนเงิน เช่น  ขวดน้ำยี่ห้อ Nestle หนึ่งขวดมีมูลค่า 0.10 บาท ซึ่งจำนวนเงินจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนขวดที่เรานำมาใช้ และหลังจากนั้นตัวเครื่องจะออกสลิปคูปองเงินสดให้ หรือจะเลือกสะสมยอดเงินไว้ได้โดยป้อนหมายเลขโทรศัพท์ของตัวคุณเองไว้ หรือจะเปลี่ยนเงินที่ได้เพื่อนำไปทำบุญก็ได้ โดยเจ้าเครื่องนี้มีการนำไปใช้จริงแล้วในจังหวัดอุบลราชธานี และคาดว่าจะเริ่มมีมากขึ้นในหลายจังหวัดทั่วประเทศ

digital-thailand-0021

อีกหนึ่งบูธที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เป็นการแสดง “หุ่นยนต์เด็กเสิร์ฟ” ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กับ MK Restaurant ถูกออกแบบมาเพื่อเสิร์ฟเครื่องดื่ม เสิร์ฟอาหาร มี 2 ล้อสำหรับเคลื่อนในร้านอาหารโดยอัตโนมัติ มีฐานไว้สำหรับวางอาหาร มีแขนที่สามารถยกขวดเพื่อเทน้ำได้ ในบริเวณตาทั้งสองข้าวจะมีเซนเซอร์จดจำใบหน้าของลูกค้าในร้าน ซึ่งในอนาคตตาทั้งสองข้างจะมีความสามารถในการจดจำใบหน้าลูกค้าที่เคยมาใช้บริการและกลับเข้ามาใช้บริการอีกครั้งได้ เพื่อการทักทายและต้อนรับอย่างมีมารยาท

digital-thailand-0025

digital-thailand-0026
หน้าจอที่หน้าอก สำหรับกดหมายเลขโต๊ะเพื่อนำอาหารหรือเครื่องดื่มไปเสิร์ฟโดยอัตโนมัติ

ซึ่งในการใช้งานปัจจุบันจะต้องพึ่งพนักงานที่เป็นมนุษย์เพื่อคอยสั่งงานว่าจะให้เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ไปเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะใด โดยบริเวณหน้าอกจะมีหน้าจอสัมผัสเพื่อกดเลขหมายเลขโต๊ะ และให้ไปหุ่นยนต์ไปเสิร์ฟอาหารหรือเครื่องดื่มโดยอัตโนมัติ

เจ้าหุ่นยนต์ที่เห็นในภาพและมาแสดงในงานครั้งนี้ เป็นต้นแบบตัวที่ 6 แล้ว ซึ่งมี 3 ตัวที่นำไปใช้งานร้าน  MK แล้วบางสาขา เช่น สาขาเซนทรัล ลาดพร้าว, พระราม 3 และสาขาม. กรุงเทพ โดยแต่ละตัวจะมีหน้าตาไม่เหมือนกัน และยิ่งไปกว่านั้นต้นแบบตัวนี้ เป็นครั้งแรกที่วัสดุภายนอกส่วนใหญ่เกิดจากเทคโนโลยี 3D Printing ด้วย

ในบูธมหาวิทยาลัยศรีปทุมก็น่าสนใจเช่นกัน กับการนำแว่นตา VR มาให้ผู้เข้าชมในร่วมสนุกและตื่นเต้นกับเกมที่นิสิต นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเป็นผู้คิดค้นขึ้น ใครชอบความตื่นเต้น แวะไปชมกันได้ครับ

digital-thailand-0027
บูธจากมหาวิทยาลัยศรีปทุม

จากที่แอดมินได้บอกกล่าวไปเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ภายในงานยังมีบูธแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีอีกมากมาย ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ไม่ว่าจะเป็น SIPA, Huawei, Microsoft, EGA, DSI, ไปรษณีย์ไทย ฯลฯ สำหรับงาน Digital Thailand 2016 จะมีไปจนถึงวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม 2559 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ใครสนใจเรื่องเทคโนโลยี อยากให้ลูกๆ หลานๆ ได้เปิดหูเปิดตา เพลิดเพลินกับความทันสมัย อย่าลืมแวะไปชมได้ ไม่เสียค่าเข้านะครับ ^^

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here