How to วิธีใช้และตั้งค่า Netflix ที่คุณอาจยังไม่รู้ ไม่กี่ขั้นตอน
ช่วงอยู่บ้านนี้ เชื่อว่าหลายคนนั่งดู Netflix กันจนเบื่อแน่ ๆ และหลายคนอาจไม่ชินกับการตั้งค่าฟังก์ชั่น วันนี้ Techhub เลยอยากเสนอวิธีการ Setting บน Netflix เผื่อบางคนอาจจะยับไม่รู้ สำหรับบางข้อที่รู้ เราก็ผ่านได้เลยจ้า
ก่อนจะเข้าเรื่อง ให้ทุกเปิด Netflix ในคอมขึ้นมาก่อน (ในมือถือจะปรับไม่ได้นะ ลองเข้าแล้ว มันไล่ให้มาปรับใน PC แทน แต่หากใครทำในมือถือ ก็ลองดูนะ แต่ผมขอแนะนำทำจาก PC ละกัน) จากนั้นให้เข้าที่หน้า Account ตามภาพด้านล่าง เพื่อพร้อมก็ไปดูวิธีแรกกันเลย
1.วิธีเปลี่ยนวันจ่ายเงินของ netflix
โดยปกติแล้ว เมื่อเราสมัครแล้ว Netflix จะให้ดูฟรี 30 และเมื่อเวลาหมด เค้าก็จะหักเงินปกติ โดยวันที่หักเงินคือวันที่เราใช้งานวันแรกนั่นแล แต่หากใครไม่สะดวก มันก็เปลี่ยนได้
โดยจากภาพแรก ให้เราไปที่หัวข้อ Change billing day มันจะเราเข้ามาตามภาพด้านล่าง ให้เราเปลี่ยนวันจ่ายตามที่เราอยากเปลี่ยนได้เลย
หมายเหตุ หัวข้อนี้ เข้าใจว่าต้องเป็นคนที่เป็นเจ้าบ้านนะ ถึงจะเปลี่ยนได้ (หากใครแชร์กับเพื่อน)
2.วิธีตั้งค่า PIN สำหรับโปรไฟล์
เชื่อว่าหลายคนมีการแชร์ Netflix กับเพื่อนเนอะ แบบว่าค่าใช้จ่ายรายเดือนมันถูกกว่าเยอะเลย แถมได้ความชัดแบบ Ultra HD ด้วย แต่เมื่อแชร์บ้านแล้ว หลายคนก็อยากมีความเป็นส่วนตัว เราดูอะไร บางเรื่องก็ไม่ได้อยากให้เพื่อนมารู้ Techhub เลยมีวิธีง่าย ๆ มาฝาก
หมายเหตุ : วิธีนี้ทำได้ทั้งเจ้าบ้านและลูกบ้านเลย
ในหน้า Account ให้เราเลื่อนดูหัวที่เขียนว่า PRPFILE&PARENTALCONTROL กดเลือกสามเหลี่ยมให้แสดงตัวเลือกมากขึ้น จากนั้นไปที่คำว่า Profile Lock
- จากนั้นให้ใส่ Password ที่ใช้ Login Netflix
- กดติ๊ก Require a PIN too access โปรไฟล์ของเรา จากนั้นใส่เลขแล้วกด SAVE เป็นอันเสร็จ
(อย่าลืม PIN ล่ะ)
3.วิธีดูว่า Netflix ของเรากำลังถูกแฮกหรือขโมยไอดีใช้งานหรือเปล่า
ทุกวันนี้เรื่องแฮกเป็นเหมือนเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทุกวันนะ แค่เราแอบใช้ ID Netflix เพื่อนโดยที่เค้าไม่ได้รับอนุญาต นั้นก็ถือว่าเป็นการแฮกละนะ ทีนี้ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า มีคนแฮกบัญชีเราไหม
- วิธีแรก ให้ไปที่ PRPFILE&PARENTALCONTROL ตามภาพในหัวข้อ 2 จากนั้น เลื่อนลงมาที่คำว่า Viewwing activity ให้ดูว่าหนังที่เราดูล่าสุดเป็นเรื่องที่เราดูหรือเปล่า หากใช่ก็ปลอดภัย แต่หากคนที่แฮกรู้วิธีนี้ เค้าก็สามารถลบ History ออกได้เช่นกัน ฉะนั้น ลองไปดูข้อถัดไป
- วิธีที่สอง ในหน้า Account ของแต่ละโปรไฟล์ ให้เราไปที่ Recent device streaming activity ตามภาพด้านล่าง แล้วไล่ดู History ว่ามีใครดูจากอุปกรณ์อะไร ที่ไหน เวลาเท่าไหร่ ซึ่งวิธีนี้ค่อนข้างวุ่นวายหน่อยหากใครแชร์กับเพื่อน เพราะคงต้องไล่ถามที่ละคน แต่ว่าวิธีนี้แฮกเกอร์จะหนียากหน่อย เพราะประวัติต่าง ๆ จะไม่ถูกลบออก และเราดูตรวจประวัติได้เสมอ
- หากตรวจสอบทั้งสองหัวข้อแล้ว พบมีประวัติผิดปกติ ให้เรารีบเปลี่ยนรหัสทันที โดยก่อนจะเปลี่ยนให้ไปทีฟังก์ชั่น Sign out of all devices ซึ่งทุก ๆ เครื่องจะถูก Logout ออกหมด
4.วิธีเอาฟังก์ชั่นดูคลิปต่อเนื่องออก หรือ ไม่ให้ Auto Play เวลา Login เข้า
ฟังก์ชั่นนี้ บางคนชอบ บางคนไม่ชอบนะ ที่เวลาคลิปมันเล่นเสร็จแล้วเล่นอัติโนมัติ เรามีวิธีปิดง่าย ๆ เลย
- ในหน้า Account ให้เราไปที่หัวข้อ PRPFILE&PARENTALCONTROL ตามหัวข้อ 2 เลือกโปรไฟล์ของเรา
- เลื่อนลงมาด้านล่างจะเจอคำว่า Playback setting
- กดเข้ามาเจอหน้าต่างตามภาพด้านล่าง
- Autoplay next episode in a serires on all device หากติ๊กไว้ คือให้กดเล่นตอนต่อไปอัติโนมัติ
- Autoplay preview while browing on all device หากติ๊กไว้ คือให้แสดงตัวอย่างหนังตอนเปิดแอป
5.วิธีเปลี่ยนแผนสมาชิก
หากใครอยากเปลี่ยนจากดูคนเดียวเป็นครอบครัว หรือเปลี่ยนอยากดูแบบครอบครัวมาเป็นคนเดียว วิธีนี้ก็ทำได้ง่าย ๆ นะ
หมายเหตุ วิธีนี้เฉพาะคนที่เป็นเจ้าบ้านถึงทำได้นะ
- ในหน้า Account ให้เราไปที่หัวข้อ Plan detail คลิกเลือก Change Plan
- เลือก Packgage ที่เราต้องการเปลี่ยน
6.วิธีเลิกใช้งาน Netflix (หมายถึงยกเลิกการจ่ายเงินนะ)
ก่อนอื่น ๆ ผมขอชม Netflix อย่างนึงนะ เวลาจะใช้งานก็สมัครง่าย และเวลาจะยกเลิกก็ง่ายเช่นกัน ต่างจากบางแอปที่จะเลิกที ต้องยืนยันนู่น ยืนยันนี่ สร้าความลำบากสุด ๆ
- ในหน้า Account เราจะเห็นปุ่ม Cancel Membership ชัดเจน หากจะยกเลิกก็คลิกโลดด
- Netflix จะขึ้นตัวเลือกให้เลิอกสองแบบคือ ลด Packgage ไหม หากจ่ายสูงๆ ไม่ไหว และอย่างที่สองคือ Finish cancellation คือยกเลิกไปเลย อยากได้แบบไหนก็เลือกเอาครับ
และนี่คือวิธีใช้งานฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่รวบรวมมาให้ครับ หวังข้อมูลนี้จะมีประโยชน์กับหลายคนนะ
!! ทิปเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยครับ
ใน Netflix นั้น หากใครตั้งโปรโฟล์เป็นภาษาอังกฤษ จะมีภาพยนต์ให้ดูมากขึ้น แต่หากใครตั้งโปรไฟล์เป็นภาษาไทย จำนวนภาพยนต์ที่ดู จะรองรับแค่เฉพาะที่มีซัพไตเติ้ลเป็นภาษาไทยเท่านั้น
วิธีเปลี่ยน ให้เราเข้าไปที่หน้า PROFILE & PARENTAL CONTROLS เลือกโปรไฟล์ของเรา ตามภาพในหัวข้อ 2 เลือกหัวข้อ Language และเปลี่ยนโปรไฟล์เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งอันนี้เป็นเหมือน filter ที่ Netflix จะคัดเลือกหนังเพื่อแสดงให้เราเห็น ลองแล้ว มันเห็นผลนะ
