สงครามยังไม่จบ รอยร้าวของหลายบริษัท ที่ไม่เคยอยากทะเลาะกัน

ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ดูเหมือนจะเป็นช่วงขาลงของ Huawei เรื่อยมา เมื่อทรัมป์ประกาศสงครามการค้ากับ Huawei โดยอ้างถึงความปลอดภัยของประเทศ

และเหมือนเรื่องนี้จะยิ่งดิ่งลงเหวลงเรื่อย ๆ เมื่อทรัมป์ยืดเวลาออกไปยาว ๆ จนถึงปี 2021 และล่าสุด ได้มีคำสั่งให้ TSMC ให้เลิกรับออเดอร์จากหัวเว่ยเช่นกัน

TSMC คือใคร ? TSMC ชื่อเต็มคือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company Limited  เป็นบริษัทสัญชาติไต้หวันผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 52% โดย Apple  และ Huawei ก็เป็นหนึ่งในลูกค้าของ TSMC  แต่ปัญหาของ TSMC คือเค้าไม่มีเทคโนโลยีของตัวเอง เป็นบริษัทที่ทำหน้าที่ในการผลิตอย่างเดียว โดยจะรับเทคโนโลยีหรือองค์ความรู้จากลูกค้า แต่ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเปิดเผยเบื้องหลังของเทคโนโลยีของลูกค้านะ

แล้วทำไมทรัมป์ถึงสั่ง TSMC ได้ ? นั่นเพราะโรงงานของ TSMC ส่วนใหญ่นั้นอยู่ในสหรัฐอเมริกาและทรัมป์เพิ่งให้กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาออกประกาศว่า ผู้ผลิตชิปที่ไม่ใช่ชาวสหรัฐอเมริกา แต่มีการผลิตชิปอยู่ในสหรัฐ อาศัยเทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ หรือการออกแบบต่าง ๆ ที่ต้องอาศัยการร่วมมือกับบริษัทที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาจะต้องยื่นขอใบอนุญาตเพื่อค้าขายกับหัวเว่ย (แต่คิดว่า ถึงยื่นไปก็คงไม่ได้รับการอนุมัติ) และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ปัจจุบัน TSMC อาจไม่รับยอมรับออเดอร์การผลิตใด ๆ จาก Huawei แล้ว (ตอนแรกเป็นแค่ข่าวลือ แต่ตอนนี้เหมือนจะจริงแล้วล่ะ)

แต่เมื่อ Huawei รู้ตัว ก็ไม่ได้แคร์อะไร ได้เริ่มอัดฉีดงบประมาณจำนวน 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐให้กับบริษัทภายในประเทศอย่าง Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) เพื่อผลิตชิปให้กับ Huawei แทน

นั่นแปลว่า TSMC จะไม่ได้เป็นผู้ผลิตชิปให้กับ Huawei อีกต่อไป และทำให้ TSMC สูญเสียรายได้มหาศาล  และซึเราอาจะได้เห็น SMIC เป็นผู้ผลิตชิปให้กับหัวเว่ยแทน

แต่ปัญหาส่วนใหญ่ ยังตงมาจาก Google Service ที่เป็นหัวใจหลักของ Androids  ที่แม้ว่าตอนที่ Google ถอนตัว หัวเว่ยจะอวดโอ้เกี่ยวกับ Huawei Gallery แต่แอปหลายอย่างก็เหมือนยังใช้งานได้ไม่เต็มที่นัก และยังมีแอปที่คนทั่วไปใช้น้อยมาก รวมทั้งระบบปฏิบัติการอย่าง Hongmong ก็เงียบหาย และยังไม่มีอะไรอัปเดตตั้งแต่วันเปิดตัว (หรือหากมีใครเห็นก็แชร์ให้ผมที เพราะเห็นแต่ข่าวที่ว่า CEO ของหัวเว่ย ออกมายอมรับว่ายังหวังที่จะได้กลับไปเป็นพาร์ทเนอร์กับ Google อยู่)  นั่นทำให้ Huawei เหมือนกำลังดิ่งลงเหวลงเรื่อย ๆ

เรายังไม่รู้ว่าสงครามการค้านี้จะจบลงเช่นไร และตอนนี้มีบริษัทได้รับผลอย่างมากจากสงครามการค้าระหว่างหัวเว่ยและสหรัฐเมริกา ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเหล่านั้นอาจไม่เคยคิดที่จะเป็นศัตรูกันเลย เพราะหลาย ๆ อย่างในการร่วมธุรกิจคือการเกื้อกูลกัน โดยหากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป วันหนึ่ง ถ้าหัวเว่ยหรือจีน สามารถผลิตเทคโลยีต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ประเทศนี้คงน่ากลัวไม่ใช่น้อย

ที่มา https://www.tomshardware.com/news/smic-china-tsmc-huawei-us-ban