กสทช. ส่งหนังสือให้ True รับผิดชอบ หลังปล่อยให้ข้อมูลบัตรประชาชนลูกค้าหลุด

สำนักงาน กสทช. มีหนังสือแจ้งทรูให้รับผิดชอบและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้บริการทั้งทางแพ่งและอาญา กรณีข้อมูลบัตรประชาชนลูกค้าหลุด พร้อมกำชับโอเปอเรเตอร์รายอื่นต้องจัดให้มีมาตรการป้องและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้บริการ

จากกรณีที่ True ปล่อยข้อมูลบัตรประชาชนลูกค้า TrueMove H หลุดไปกว่า 46,000 ราย โดยระบุว่ามาจากการลงทะเบียนซิมผ่านช่องทาง itruemart หลังการชี้แจ้งไปเมื่อวาน ล่าสุดทาง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ยื่นหนังสือส่งไปยัง บริษัท เรียล มูฟ จำกัด หรือ TrueMove H ให้รับผิดชอบและเยียวยาความเสียหายต่อลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ พร้อมสั่งให้จัดมาตรการป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และสั่งไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายอื่น ๆ อีกด้วย

เนื้อหาหนังสือแจ้งจากกสทช.

สำนักงาน กสทช. มีหนังสือแจ้งทรูให้รับผิดชอบและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้บริการทั้งทางแพ่งและอาญา กรณีข้อมูลบัตรประชาชนลูกค้าหลุด พร้อมกำชับโอเปอเรเตอร์รายอื่นต้องจัดให้มีมาตรการป้องและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้บริการ

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากที่สำนักงาน กสทช. ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ปรากฏข่าวผ่านสื่อสารมวลชนว่า ทรูมูฟ เอช ทำข้อมูลบัตรประชาชนลูกค้าหลุดเป็นจำนวนมาก มาชี้แจงข้อเท็จจริง ณ สำนักงาน กสทช. เมื่อวานนี้ (17 เม.ย. 2561) ในวันนี้ สำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือถึงบริษัท เรียล มูฟ จำกัด เรื่อง ให้ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 มีคำสั่งให้ บริษัทฯ ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน แก้ไขปรับปรุง และปฏิบัติให้ถูกต้องเหมาะสม ในเรื่องดังต่อไปนี้

1. จัดให้มีมาตรการป้องกันและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลทั้งทางด้านเทคนิคและการจัดการภายในองค์กรในรูปแบบที่เหมาะสมกับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยอย่างน้อยต้องปรับระดับรักษาความปลอดภัยให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นตามการพัฒนาทางเทคโนโลยี และให้มีการตรวจสอบระบบการรักษาความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของข้อมูล
2. จัดให้มีช่องทางการตรวจสอบจากประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
3. ให้ บจ. เรียล มูฟฯ รับผิดชอบและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบ ทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นในทางแพ่งและทางอาญา
4. ให้รายงานผลการดำเนินการตามคำสั่งตามข้อ 1. 2. และ 3. มายังสำนักงาน กสทช. ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ และรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามคำสั่งนี้เป็นระยะๆ ทุก 15 วัน

หากบจ. เรียล มูฟฯ ไม่ดำเนินการตามคำสั่งนี้ เลขาธิการ กสทช. จะใช้มาตรการบังคับทางปกครองกำหนดค่าปรับทางปกครองตามกฎหมายไม่ต่ำกว่าสองหมื่นบาทต่อวัน ตามมาตรา 66 แห่งพ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ทั้งนี้ บจ. เรียล มูฟฯ มีสิทธิโต้แย้งคำสั่ง ดังกล่าวได้โดยยื่นอุทธรณ์ต่อ กสทช. ภายในระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ ตามมาตรา 65 แห่งพ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544

นายฐากร กล่าวว่า พร้อมกันนี้ สำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายอื่นๆ ว่า ต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันและและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลทั้งทางด้านเทคนิคและการจัดการภายในองค์กรในรูปแบบที่เหมาะสมกับแต่ละบริการโทรคมนาคม ตามข้อ 10 ของประกาศ กทช. เรื่อง มาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคมกำหนด โดยผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศอย่างเคร่งครัด และหากเกิดกรณีที่ไม่เป็นไปตามที่ประกาศกำหนด ผู้รับใบอนุญาตต้องควบคุมดูแลให้ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน หรือแก้ไขปรับปรุงหรือปฏิบัติตามให้ถูกต้องเหมาะสม และผู้รับใบอนุญาตต้องผูกพันในการดำเนินการใด ๆ ของบุคคลดังกล่าวเสมือนว่าผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการด้วยตนเอง ตามข้อ 18 ของประกาศดังกล่าวกำหนดไว้

ที่มา : สำนักงาน กสทช.