รีวิว : TP-Link Archer C5400X เราเตอร์เกมมิ่งสเปกโหด จัดเต็มทั้ง LAN และ Wi-Fi ถึงไหนถึงกัน

เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเกมส์ไหน ๆ ก็ต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการเล่นทั้งนั้น สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คงไม่พ้น ‘ความเสถียร’ ที่หากเมื่อไรความเสถียรเกิดสะดุด ความพ่ายแพ้ก็จะตามมาทันที โดยเฉพาะกับเกมส์ออนไลน์แนว FPS, MODA และ RPG ทั้งหลายนี้เอง ที่ไม่ว่ายังไงเน็ตต้องห้ามหลุด ไม่งั้นก็ Game Over แน่นอน

สำหรับบ้านหรือสโมสรไหน ๆ ที่มีสมาชิกอยู่หลายคน และทุกคนมีอยากใช้อินเทอร์เน็ตเหมือนกัน ปัญหาที่ตามมาก็คงไม่พ้น ‘สัญญาณเน็ตไม่พอ’ ยิ่งมีหลายคน ก็ยิ่งแย่งกันใช้ Wi-Fi กับ LAN จนสุดท้ายมีเน็ตก็เหมือนไม่มี แม้เราจะสมัครโปรแพงขนาดไหนก็ตาม หากจะเล่นเกมก็ลืมไปได้เลย

ดังนั้นในรีวิวนี้ ขอพาทุกท่านมาพบกับ TP-Link Archer C5400X เราเตอร์เกมมิ่งรุ่นแรกจาก TP-Link มาพร้อมสเปกที่จัดเต็มแบบถึงไหนถึงกัน อาทิ ซีพียู 1.8 GHz Quad-Core เสาสัญญาณ 8 เสา และ LAN 100/1000 อีก 8 ช่อง พร้อมเทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอีกมากมาย ส่วนจะช่วยแก้ปัญหาความเสถียรกับสัญญาณเน็ตไม่พอได้ขนาดไหนนั้น เดี๋ยวมาพิสูจน์กันครับ

รายละเอียดสเปก TP-Link Archer C5400X 

  • Tri-band AC5400 with 2.4 GHz (1000 Mbps) + 5 GHz (2167 Mbps) + 5 GHz (2167 Mbps)
  • NitroQAM 1.8 GHz 64-bit quad-core CPU + 3 co-processors
  • 1 GB RAM
  • 16 GB EMMC
  • 8x Gigabit Ethernet LAN ports
  • 1x Gigabit Ethernet WAN port
  • 2x USB 3.0
  • 8x external antennas
  • Bluetooth (for setup)

แกะกล่อง

กล่องแพคเกจมีขนาดใหญ่ใช่เล่น มาเป็นโทนสีดำดุดันตามสไตล์เกมมิ่ง

และในกล่องก็ประกอบไปด้วยตัว Router พร้อมเสาสัญญาณ 8 เสา สาย LAN x 1 และชุดไฟเลี้ยง

ส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ของ TP-Link Archer C5400X ก็ต้องเป็นเสาสัญญาณขนาดใหญ่ทั้ง 8 เสา ที่เป็นหัวใจสำหรับของตัว Router รุ่นนี้เอง

สำหรบข้อต่อของเสาสัญญาณทั้ง 8 เสา ก็คล้าย ๆ กับการต่อสายสัญญาณทีวี ต่อง่าย ถอดง่าย ซึ่งตัวเสาหลังต่อเข้ากับตัว Router แล้ว ก็จะถูกล็อคตั้งตรงทันที ขยับเขยื้อนอะไรไม่ได้อีก แต่ก็ช่วยกันไม่ให้เด็กคนไหน มาซนโยกเสาสัญญาณเล่นได้ (เจอมาแล้ว ฮ่า ฮ่า)

วัสดุและดีไซน์

หน้าตาของ TP-Link Archer C5400X หลังประกอบเรียบร้อย ด้วยความที่ตัวเสาสัญญาณมีการดีไซน์เป็นสีดำแดง ทำให้ตัว Router ดูดุดันสมกับที่เป็นอุปกรณ์เกมมิ่งขึ้นเยอะ ขนาดตัว Router ถือว่าใหญ่เอาเรื่อง เมื่อเทียบกับ Router ทั่ว ๆ ไป หรือกระทั้ง Router เกมมิ่งรุ่นอื่น ๆ ก็ตาม ด้านวัสดุเป็นพลาสติกผิวด้าน และค่อนข้างหนาทีเดียว

รอบ ๆ ตัว Router เริ่มจากด้านหน้าก็มีพอร์ต USB 3.0 ให้ 2 ช่อง ด้านข้างมีปุ่ม Wi-Fi On/Off Button, LED On/Off Button, Power On/Off และสุดท้ายด้านหลัง ที่ถือเป็นไฮไลท์เด่นของเจ้า TP-Link Archer C5400X เลยคือ พอร์ต LAN 100/1000 หรือ Gigabit Ethernet ที่มีมากถึง 8 ช่อง (ใครทำร้านเกมส์อยู่น่าจะชอบแน่ ๆ) รวมช่อง WAN อีกหนึ่งก็เป็นพอร์ต Ethernet จำนวน 9 ช่อง นอกนั้นก็มีปุ่มเปิดปิดตัวเครื่อง และปุ่ม Reset แบบต้องใช้เข็มจิ้มซ่อนอยู่ด้านหลัง

แผงระบายความร้อนขนาดใหญ่ทั้งบนและล่าง

สเปกภายในตัว TP-Link Archer C5400X ถือว่ายิ่งใหญ่พอ ๆ กับขนาดตัวมันเลย โดยหลัก ๆ ก็มีทั้งซีพียูจาก NitroQAM ความเร็ว 1.8 GHz 64-bit quad-core และยังมีชิปประมวลผลส่วนอื่น ๆ ให้อีก 3 ตัวด้วย (3 x Co-Processor) มีแรม 1GB และพื้นที่ภายใน 16GB สุดท้ายการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi แบบ Tri-band ความเร็ว AC5400 แบ่งเป็น 2.4 GHz (1000 Mbps) + 5 GHz (2167 Mbps) + 5 GHz (2167 Mbps) พร้อมเทคโนโลยี MU-MIMO

เปรียบเทียบตัว Router รุ่นก่อนหน้าอย่าง TP-Link Archer C5400 (ซ้าย) และ TP-Link Archer C5400X (ขวา) ที่รีวิวอยู่ เพิ่ม “X” ตามท้ายตัวเดียว หน้าตาเปลี่ยนไปเยอะ

การใช้งาน

ตัว TP-Link Archer C5400X ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานต่าง ๆ ผ่านแอพฯ TP-Link Tether เหมือนเคย (ส่วนตัวอยากให้มี Skin หรือหน้าตั้งค่าพิเศษ หากพบว่าเชื่อมต่อกับ C5400X จะเป็นอะไรที่เท่มาก) สำหรับการตั้งค่าใช้งานครั้งแรกก็มีตามนี้

เริ่มจากต่อไฟเสียบสาย LAN อะไรให้เรียบร้อย จากนั้นก็ต่อ Wi-Fi จาก TP-Link Archer C5400X ก็จะพบว่ามีชื่อ Wi-Fi มาใหม่ด้วยกัน 3 ชื่อ ให้เลือกชื่อไหนก็ได้ไปก่อน (ส่วนรหัสก็ดูใต้เครื่อง) จากนั้นก็เปิดแอพฯ TP-Link Tether หากเชื่อมต่อ wi-Fi แล้ว ตัวแอพฯ ก็จะแสดงชื่อตัว Archer C5400X ที่กำลังใช้งานอยู่ทันที หลังจากนั้นมันจะให้เราตั้งค่าชนิดการเชื่อมต่อ (มีสแกนให้อัตโนมัติด้วยว่าเราใช้การเชื่อมต่อแบบไหนอยู่) ถัดมาก็ตั้งชื่อ Wi-Fi และรหัสเข้าใช้งานใหม่ สุดท้ายก็เชือมต่อ Wi-Fi กับ TP-Link Archer C5400X ใหม่อีกครั้ง

เมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi พร้อมเข้าแอพฯ TP-Link Tether ใหม่อีกครั้ง ก็จะพบกับหน้าบอกสถานะการเชื่อมต่อโดยรวม (หรือหน้าแรก) แล้ว โดยหน้านี้มันจะวัดความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เราใช้บริการอยู่ทันที อย่างของผมก็ 100/30

จุดเด่นของ TP-Link Tether หรือ Router จาก TP-Link เกือบทุกรุ่น ก็มีโหมดการตั้งค่าสำหรับพ่อแม่ หรือ Parental Controls ที่กำหนดได้ง่ายเหมือนเคย

นอกนั้นก็มีหน้าตั้งค่าทั่ว ๆ ไปตามสไตล์ TP-Link อาทิ QoS, ป้องกันไวรัส, Guest Wi-Fi ส่วนจุดเด่นจริง ๆ ของ TP-Link Archer C5400X จะอยู่ในส่วนประสิทธิภาพตามนี้

ประสิทธิภาพ

ในส่วนการใช้งานกับการตั้งค่าก็เหมือน ๆ กับ Router ทั่วไป แต่ของจริงอยู่ที่ฟีเจอร์ภายในมากกว่า โดยตัว TP-Link Archer C5400X ก็ยังคงเป็น Router เกมมิ่งสมฐานะ โดยภายในก็มีฟีเจอร์พิเศษอาทิ

มี Gaming First QoS สามารถตั้งได้เลยว่า หากมีการเล่นเกม ตัว Router จะเข้าไปดูในส่วนนี้ก่อนทันที แม้ในขณะนั้นจะมีการดู Youtube ดูหนัง 4K หรือใช้งานอะไรอยู่ก็ตาม ซึ่งหากเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ก็จะมีทั้ง MU-MIMO , Beam Forming และ Airtime Fairness เข้ามาช่วยพร้อม ๆ กันด้วย ทำให้การเชื่อมต่อไรสายมีประสิทธิภาพอย่างมาก บวกกับสเปก AC5400 ทั้งคลื่น 2.4 GHz และ 5 GHz ที่รองรับความเร็วได้สูงแล้ว พร้อมมีเทคโนโลยี RangeBoots ช่วยดันความแรงสัญญาณให้มากขึ้นอีก ก็ยิ่งทำให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างลื่นไหลสุด ๆ แม้จะมีการเขื่อมต่อจากหลาย ๆ อุปกรณ์ก็ตาม

ในช่อง LAN Gigabit จะมีช่อง LAN พิเศษ 2 ช่อง (LAN 2 กับ LAN 3) ที่มีชิปประมวลผลพิเศษเฉพาะ คือหากใครมี NAS หรือ Smart TV ไม่ก็ PS4 หรือ XBox One มาต่อ 2 ช่อง LAN ดังกล่าว ตัว Router ก็จะสามารถกระจายความเร็วที่เหมาะสม มายังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่านช่อง LAN พิเศษนี้ได้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องตั้งค่าอะไรเพิ่มเติมเลย

สำหรับการทดสอบครั้งนี้ ผมจะเอาตัว TP-Link Archer C5400X ไปตั้งไว้ในห้องปิด ที่มีทั้งกำแพงล้อมรอบ และมีประตูหลายบาน แบ่งเป็นประตูกระจก x 2 และประตูไม้ x 2 เพื่อขอดูประสิทธิภาพ Wi-Fi ว่าจะสามารถทะลุทะลวงอุปสรรคเหล่านี้ได้ไหม แต่ก่อนอื่นลองเทสการเชื่อมต่อ Wi-Fi จากระยะไกล้กันก่อน

เทสการเชื่อมต่อ Wi-Fi ผ่านคลื่น 5 GHz ก็ได้ความเร็วตามที่สมัครบริการเอาไว้ (100/30) แต่กระนั้นบนสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อ Wi-Fi อยู่ ก็พบความแรงเครือข่ายที่วัดได้คือ 866 Mbps ในแอพฯ Wifi Analyzer ก็วัดความแรงสัญญาณ Wi-Fi จากตัว TP-Link Archer C5400X ได้สูงสุด เมื่อเทียบกับตัว Router Wi-Fi แบบ Tri Band ที่วางใกล้ ๆ กัน

ส่วนความเร็วอินเทอร์เน็ตจากสาย LAN ต่อเข้า PC ก็ได้ตามนี้

อย่างที่กล่าวไปตอนแรก เทสในห้องปิด มีกำแพง มีประตูหลายบาน จากนั้นผมก็ย้ายถัดจากห้องนี้ไป 2 ห้อง

หรือประมาณนี้

ผลที่ได้คือ คลื่น 5 GHz มีความเร็วลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนคลื่น 2.4 GHz มีมากสุดเมื่อเทียบกับทั้ง 3 คลื่น

สำหรับคุณภาพสัญญาณและความเร็ว Wi-Fi จาก TP-Link Archer C5400X ก็ยังนำ Router ตัวอื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ เหมือนเคย ส่วนคลื่น 2.4 GHz ก็ได้ความเร็วไป 86.7/20.2 Mbps ส่วน 5 GHz ก็ตามภาพ เหลือ 51.5/26.8 Mbps

สรุป

จากที่เกริ่นในตอนแรก ถ้าบ้านไหนมีสมาชิกครอบครัวไม่น้อย และทุกคนใช้อินเทอร์เน็ตกันเกือบหมด (หรือหมดเลย) ตัว TP-Link Archer C5400X ตอบโจยท์แน่นอน จากผลเทสประสิทธิภาพก็เห็นแล้วว่า มันมีคุณภาพด้านการกระจาย Wi-Fi ขนาดไหน ขนาดอยู่ในพื้นที่ปิดมีกำแพงมีประตูล้อมรอบหลายชั้น ก็ยังส่ง Wi-Fi ทะลวงออกมาได้ หากตั้งไว่กลางบ้าน ก็คงมีสัญญาณ Wi-Fi ทั่วถึงกว่านี้แน่นอน

ทั้งนี้ด้วยคุณสมบัติของตัว C5400X ที่ฟีเจอร์ช่วยกระจายสัญญาณ Wi-Fi หรือ LAN ไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ ได้พร้อมกันหลายตัวโดยเฉพาะมากมายมาก ๆ เช่น MU-MIMO , Beam Forming, Airtime Fairness และ RangeBoots ใครที่เล่นเกมก็เล่นไป ใครอยากดูหนังดูละครก็ดูกันไป ไม่ต้องกลัวการดึงสัญญาณระหว่างกัน

ส่วนสเปกภายในก็สูงมาก ช่วยให้ได้ ‘ความเสถียร’ อย่างที่ Router หลาย ๆ ตัวควรมี ด้านดีไซน์ก็สวยงามตามสไตล์เกมมิ่ง แต่สำหรับขนาดถือว่าใหญ่ไปหน่อย อาจต้องหาที่ว่างพิเศษสำหรับตัว Router นี้ไว้เลย

สุดท้ายนี้ตัว TP-Link Archer C5400X ก็สนนราคาอยู่ที่ 13,990 บาท ครับ