รัสเซียจับมือจีน เล็งก้าวขึ้นผู้นำเทคโนโลยี ปักธง AI เน้นความปลอดภัย

[ท่ามกลางความขัดแย้ง] เป็นสถานการณ์ที่น่าจับตามองอยู่ไม่น้อย หลังสองชาติมหาอำนาจอย่างรัสเซียกับจีน ประกาศจับมือกัน ตั้งเป้าเป็นประเทศผู้นำในด้านเทคโนโลยี ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และปัญญาประดิษฐ์หรือ AI พร้อมสร้างความร่วมมือ [รูปแบบใหม่] ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วย

เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของจีน ได้เดินทางไปที่กรุงมอสโก เพื่อเข้าพบกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย แน่นอนว่าการเดินทางครั้งนี้ย่อมถูกจับตาจากทั่วโลก โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ และชาติตะวันตก ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ารัสเซีย กำลังถูกมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ โดยส่งผลทั้งการส่งออก และการถอนตัวจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอทีมากมาย

อย่างไรก็ตาม จีนได้เลือกที่จะเข้าหารัสเซีย โดย สี จิ้นผิง เดินทางมาพบกับผู้นำของรัสเซียโดยตรง และการมีระบุถึงข้อตกลงหลายฉบับในด้านต่าง ๆ ซึ่งมีระบุไว้ในเอกสารที่ชื่อ [แถลงการณ์ร่วมระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและสหพันธรัฐรัสเซีย ว่าด้วยการร่วมมือเชิงกลยุทธ์อย่างรอบด้านของการประสานงานในยุคใหม่]

ในการประสานงานในยุคใหม่ที่ว่า ก็คือการตกลงสร้างรูปแบบความร่วมมือใหม่ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น AI , IoT , 5G , เศรษฐกิจดิจิทัล และ Low carbon economy หรือมาตรการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เป็นสาเหตุหลักของสภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดจะมีการร่วมมือเชิงกลยุทธ์ รวมถึงเพิ่มศักยภาพการวิจัย และความสามารถทางอุตสาหกรรมที่มีอยู่มากมาย

ยากที่จะจินตนาการว่า จะมีประเทศใดประเทศหนึ่งได้กลายเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีจริง ๆ อย่างกรณีของรัสเซียที่หลังเกิดสงคราม ก็ถูกทั้ง IBM, Nvidia, Intel และอื่น ๆ อีกมากมาย พากันหยุดขายผลิตภัณฑ์ในประเทศนี้ อีกทั้งก่อนหน้า รัสเซียเคยประกาศว่าจะผลิตชิปประมวลผลเองภายในปี 2030 แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถจัดหาเซมิคอนดักเตอร์ที่เชื่อถือได้

ทางด้านจีน ก็ถูกสหรัฐฯ งดส่งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญมากมาย เช่น Nvidia เพื่อหวังชะรอการพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารของจีน และยังรวมทั้งการพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ การสร้างแบบจำลองอาวุธนิวเคลียร์ และอาวุธความเร็วเหนือเสียง ที่มีคาดการณ์ว่าจีนกำลังพัฒนาอยู่

เรียกได้ว่าทั้งสองประเทศ ต่างก็ถูกจำกัดการส่งออก โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี แต่ก็ยังน่าจับตามองว่าต่อจากนี้ รัสเซียกับจีน จะมีการร่วมพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองอย่างไรบ้าง รวมไปถึงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในด้านอื่น ๆ ด้วย ท่ามกลางความขัดแย้งที่กำลังก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน

ที่มา : Techspot