พอกันที ปี 2023 รวมเทคโนโลยีที่ไม่ได้ไปต่อ

ในทุกปีจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย บ้างก็ประสบความสำเร็จ บ้างก็แป๊ก ไม่ได้ไปต่อ สาเหตุที่ทำให้เทคโนโลยีไม่ได้รับความนิยม ก็มาจากหลาย ๆ ปัจจัย เช่น เทคโนโลยียังไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริง มีต้นทุนสูงเกินไป หรือการขาดการสนับสนุนจากผู้ผลิต

Techhub ขอพาทุกคนไปดูเทคโนโลยีที่เปิดตัวมาอย่างยิ่งใหญ่ แต่กลับแป๊ก เพราะยังไม่สามารถนำมาใช้งานในชีวิตจริงได้  จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

Metaverse

เทคโนโลยีนี้ ถึงขั้นทำให้ Mark zuckerberg  ถึงขั้นเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก Facebook ไปเป็น Meta เพราะคิดว่ามันคือเทคโนโลยีแห่งอนาคตเลยทีเดียว  ซึ่ง Metaverse เป็นเทคโนโลยีโลกเสมือนจริงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงแรก แต่กลับเริ่มเงียบเหงาลงในช่วงหลัง เนื่องจากยังไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานจริงได้

หลายคนมองว่า Metaverse เป็นเพียงเกมหรือแอปพลิเคชันเสมือนจริงเท่านั้น ไม่ได้เป็นโลกเสมือนจริงที่ผู้คนสามารถใช้ชีวิตได้จริงอย่างในหนังเรื่อง Ready to Player one นอกจากนั้น อุปกรณ์อย่างแว่น VR ก็ยัมีราคาแพง แม้ Meta จะพยายามสร้าง Meta Quest ออกมาจำหน่ายในราคาที่ถูกลง มันก็ยังไม่ปัง ซึ่งในช่วงหนึ่ง หุ้นของ Meta ก็ดิ่งลงมาก เพราะมุ่งมันจะพัฒนาแต่ Metaverse เพียงอย่างเดียว

Crypto และ NFT

ปัจจุบัน  Crypto และ NFT ได้เสื่อมความนิยมลงมาก เนื่องจากปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น

1.ความผันผวนของราคา ราคาของ Crypto และ NFT มีความผันผวนสูงมาก ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากขาดทุน และทำให้ผู้คนทั่วไปมีความกังวลที่จะลงทุนใน Crypto และ NFT

2.ความเสี่ยงในการถูกหลอกลวง  มีการหลอกลวงเกี่ยวกับ Crypto และ NFT เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้คนสูญเสียเงินจำนวนมาก และทำให้หลายคนเริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงในการลงทุนใน Crypto และ NFT

3.ยังไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานจริงได้ เช่น ยังไม่สามารถใช้ชำระค่าสินค้าและบริการได้อย่างแพร่หลาย หรือยังไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ ได้มากนัก
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อความนิยมของ Crypto และ NFT เช่น นโยบายของภาครัฐที่เข้มงวดขึ้น และกระแสความนิยมที่เปลี่ยนไปของผู้คน

แว่น Smart Glasses

แว่น Smart Glass เปิดตัวด้วยแนวคิดที่จะนำเทคโนโลยี AR มาสู่โลกแห่งความเป็นจริง แต่พอจะนำมาใช้งาน กลับมีข้อจำกัดมากมาย จนทำให้เทคโนโลยีนี้ ไม่ได้รับความนิยม โดยมีปัจจัยหลายอย่างเช่น

1. แว่น Smart Glass นั้นมีราคาค่อนข้างสูง ทำให้เข้าถึงได้ยากสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
2.การใช้งานที่ยังไม่สะดวกมากนัก  เช่น จอแสดงผลไม่คมชัด แบตเตอรี่หมดเร็ว และบางอันก็มีน้ำหนักมาก จนไม่สามารถใส่ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
3.กระแสความนิยมที่เปลี่ยนไป ในช่วงหลังผู้คนเริ่มหันมาสนใจเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น สมาร์ทโฟนและสมาร์ทวอทช์มากขึ้น

Web 3

Web3 เป็นเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ที่เน้นความกระจายอำนาจ แทนที่จะเป็นศูนย์กลางอย่างในปัจจุบัน โดย Web3 อาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) ในการกระจายอำนาจข้อมูลและการควบคุม ซึ่งมันได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงแรก เนื่องจากผู้คนมองว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพที่จะปฏิวัติอินเทอร์เน็ตและโลกออนไลน์
แต่ไม่นานหลังจากนั้น มันค่อย ๆ หายไป เนื่องจากผู้คนเริ่มตระหนักถึงข้อจำกัดของ Web3 เช่น ความเร็วในการประมวลผลที่ช้า ความซับซ้อนในการทำงาน และ ความปลอดภัยที่ยังไม่เพียงพอ จนทำให้มันเสื่อมความนิยมไป

แถมให้อีกอัน เทคโนโลยีที่ยังพัฒนาต่อ แต่ยังเกิดยากมากในไทย

รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ

รถยนต์ไร้คนขับ เป็นเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และมีความเป็นไปได้ที่จะเข้ามาแทนที่รถยนต์ในปัจจุบันและในอนาคต อย่างไรก็ตาม รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติในปัจจุบันยังมีข้อจำกัดหลายประการที่ยังไม่สามารถใช้งานในไทยได้  ทั้งเรื่องของเทคโนโลยียังไม่สมบูรณ์ กฏหมายไทยที่ยังยังไม่ได้รองรับ  รวมทั้ง ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ หลายคนมองว่ารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้มากกว่ารถยนต์ที่มนุษย์ขับเองครับ

และทั้งหมดนี้คือเทคโนโลยีที่ไม่ได้ไปต่อในปี 2024 เพราะมันเสื่อมความนิยมมากขึ้น แต่ในอนาคตนั้นก็ไม่แน่นะ มันอาจจะกลับมาเมื่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เหมาะสมกับมัน