เทคโนโลยีด้านเครือข่ายไร้สายกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุค “5G” เครือข่ายที่ให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ที่ความเร็วถึง 10GB/s เหนือกว่าเทคโนโลยี 4G LTE, HSPA, GSM และ Wi-Fi ในปัจจุบันถึง 100 เท่า และเป็นที่คาดว่าผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมในสหรัฐฯ จะเริ่มมีการทดสอบ 5G ในเร็วๆ นี้
Verizon หนึ่งในผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายยุคหน้า หรือ “5G” ซึ่ง Verizon ได้ข้อสรุปถึงการกำหนดสเปค 5G เป็นที่เรียบร้อย เป็นการสร้างเทคโนโลยี Radio Access technologies (RAT) แบบใหม่ ต่อยอดจากเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายในปัจจุบันอย่าง 4G LTE, HSPA, GSM และ Wi-Fi โดย Verizon มั่นใจว่าข้อสรุปที่ชัดเจนด้านสเปค 5G จะช่วยให้คู่ค้าในอุตสาหกรรมด้านไอที เช่น ผู้ผลิตชิปเซ็ต, ผู้ให้บริการเครือข่าย และผู้ผลิตสมาร์ทโฟน สามารถสร้างโซลูชั่นให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน พร้อมการมีส่วนร่วมในการทดสอบก่อนผลิตอุปกรณ์ต่างๆ ขึ้นมา
นอกจากนี้ Verizon ยังกำหนดจุดทดสอบ 5G ช่วงเริ่มแรก ในรัฐนิวเจอซีย์, แมสซาซูเซต และเท็กซัส ของสหรัฐอเมริกา โดยประธานของ Verizon กล่าวว่าการวางแผนเทคโนโลยีครั้งนี้จะช่วยให้ Verizon สามารถคิดค้นวิธีที่ให้ความสะดวกต่อการพัฒนาและทำงานร่วมกับทรัพยากรภายในองค์กรได้ พร้อมชิงความได้เปรียบในการทำตลาดได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ Verizon ประกาศชัดเจนว่าจะเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายยุคหน้า หรือ 5G รายแรกของสหรัฐฯ แต่ความพร้อมในด้านต่างๆ สำหรับเครือข่าย 5G ต่อการให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอาจต้องรอจนถึงปี 2020
สำหรับเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายยุคหน้า หรือ 5G จะช่วยให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถใช้ความเร็วได้ถึง 10GB/s ต่อคน เร็วกว่า 4G LTE ในปัจจุบันถึง 100 เท่า รองรับความจุเพื่อการส่งต่อข้อมูลได้มากขึ้นเป็น 1,000 เท่า และยังเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับการสร้าง Smart City
อ้างอิงจาก The Verge
