Tips

เรื่องนี้น่าจะถูกใจกับคนที่เป็นอาจารย์ หรือผู้ตรวจข้อสอบในยุคที่นักเรียนไม่สนใจห้องสมุดและเครื่องถ่ายเอกสารอีกต่อไปแล้ว เพราะในอินเทอร์เน็ตนั้นมีแทบทุกอย่าง สามารถก๊อบมาแปะได้เลย ไม่ต้องเมื่อยมือนั่งพิมพ์ให้เสียเวลาด้วย แต่แบบนี้จะได้ประโยชน์อะไร

เดี๋ยวนี้โลกมันกลมครับ การติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตทำให้เราได้พบกับผู้คนมากหน้าหลายตา หลากเชื้อชาติ การแชตกับเพื่อนต่างชาติ หรือชาติเดียวกัน แต่กระแดะใช้ภาษาอื่น (แถมผิดๆ ถูกๆ อีกต่างหาก) ทำให้เราต้องมานั่งปวดหัว หาคำแปลให้ทันมัน ก่อนที่โดนส่งสายตาเยาะเย้ย

ค้นหาด้วยภาพยังสามารถทำได้ แล้วการค้นหาด้วยเสียง ทำไมจะไม่สามารถทำได้ แน่นอนว่าสามารถทำได้เช่นเดียวกัน แต่จะมีอยู่ 2 ลักษณะครับ

อย่างที่เค้าว่ากันไว้ว่าคงจะหาคำคำหนึ่งที่จะมาแทนความหมายของภาพทั้งภาพได้ ดังนั้นถ้าหากคุณกำลังค้นหาภาพสักภาพที่ตรงใจ อาจจะต้องใช้เป็นล้านคีย์เวิร์ด เพื่อค้นหาภาพให้ตรงใจมากที่สุดก็เป็นได้ แต่ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้ครับ เพราะที่จริงแล้ว มีวิธีการที่ง่ายกว่านั้น โดยเฉพาะใครที่มีภาพที่คล้ายๆ หรือใกล้เคียงกันอยู่แล้วมาเป็นต้นแบบ ทุกอย่างก็ง่ายขึ้นเยอะเลย

มาถึงหายนะอันสุดท้ายที่พิสุจน์มาแล้วว่าหลายๆ คนต้องเจอกับปัญหานี้ และบางคนถึงกับต้องส่งเครื่องไปเคลมไปซ่อม หรือฟอร์แมตเครื่องกันมาแล้ว

ฟังก์ชันนี้จะเรียกว่าพี่แต๊ปเองไม่เคยพลาด และก็ไม่รู้ว่าจะมีใครเคยพลาดหรือเปล่ากับการกดปุ่ม Ctrl + Alt + ปุ่มลูกศร เพิ่งรู้เหมือนกันว่ามี ชอร์ตคัตนี้อยู่ด้วย

ในระหว่างที่กำลังใช้ความคิดเพลิน หรือกำลังจดๆ จ้องๆ จะทำอะไรบางอย่าง เราอาจจะเผลอกดปุม ชอร์ตคัตที่ไม่มีความหมายบางตัวเช่น Shift หรือ Ctrl เล่นๆ โดยไม่ได้กดปุ่มอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย ซึ่งก็ไม่เป็นอะไร เพราะมันไม่ไปตรงกับคำสั่งใดๆ ของวินโดวส์หรือของโปรแกรม

เราได้รับการฝึกฝนการใช้คอมพิวเตอร์มาแต่ไหนแต่ไรว่าหากต้องการเปลี่ยนภาษาในการพิมพ์ ให้ไปกดปุ่ม ~ ที่อยู่ด้านล่างปุ่ม Esc นั่นแหละ ด้วยความที่สัญลักษณ์นี้เราแทบจะไม่ได้ใช้งานอยู่แล้ว จึงไม่มีผลใดๆ ในการใช้งานตามปกติ สามารถนำมาใช้เป็นปุ่มเปลี่ยนภาษาได้เป็นอย่างดี

เชื่อว่าเกือบทุกคนคงเคยใช้งานปุ่ม Ctrl + S ชอร์ตคัตยอดนิยมที่ใช้งานบ่อยไม่แพ้ Ctrl + X/C/V กันเลย นั่นคือคำสั่ง Save หรือบันทึกไฟล์แบบด่วน ฟังดูก็มีประโยชน์ดีนะ ไม่เห็นจะมีโทษตรงไหนเลย

ผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงเป็นเช่นเดียวกับผม หลังจากที่เมื่อก่อนเราจะได้รับการสอนมาให้กดปุ่ม Shift + Delete ในขณะที่เลือกไฟล์ที่ต้องการลบ เพื่อให้ลบไฟล์นั้นไปเลย โดยไม่ต้องไปเก็บในถังขยะ Recycle Bin ก่อน ทำให้ถังขยะไม่เต็มและเราก็ไม่ต้องไปเทถังขยะทิ้งออกไปบ่อยๆ