พรีวิว iMi i9 ภาพลักษณ์ใหม่ของฟีเจอร์โฟน

ในยุคนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสมาร์ทโฟนได้เข้ามีอิทธิพลต่อชีวิตเราเป็นอย่างมาก การเกิดขึ้นของสมาร์ทโฟนเสมือนเป็นยุคใหม่ที่กลืนยุคเก่าของมือถือหรือฟีเจอร์โฟน อย่างไรก็ตามก็ไม่ใช่ว่าฟีเจอร์โฟนหรือมือถือธรรมดาแบบมีปุ่มกดจะหมดไป เพราะเชื่อว่าผู้เฒ่า ผู้แก่ หรือผู้สูงอายุหลายท่านยังเลือกใช้ฟีเจอร์โฟน ด้วยเหตุผลง่ายๆ เพราะมีไว้ใช้โทรเข้า-โทรออก แค่นั้น !!

เกริ่นมาแบบนี้ หลายคนอาจจะพอเดาทางได้แล้วว่าผมมีอุปกรณ์อะไรมาบอกเล่า ซึ่งวันนี้ผมมี “iMi i9” ฟีเจอร์โฟนรุ่นล่าสุดจาก iMi มาแนะนำครับ ใครที่คิดถึงมือถือแบบมีปุ่มกด ต้องไม่พลาดกับพรีวิวนี้ครับ

พรีวิว iMi i9

สเปค iMi i9

  • หน้าจอสีขนาด 2.31 นิ้ว ความละเอียด 320 x 240 พิกเซล
  • ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด
  • ตัวเครื่องรองรับ micro SD card ความจุสูงสุด 32GB
  • กล้องหลัง 1.3 ล้านพิกเซล
  • แบตเตอรี่ความจุ 900 mAh
  • พอร์ต Micro USB ใช้เป็นที่ชาร์จและสำหรับต่อหูฟัง
  • รองรับ Bluetooth 3.0
  • รองรับเครือข่าย 2G GSM 900/2100 MHz
  • ราคา 1,699 บาท

ก่อนที่จะไปสัมผัสกับตัวเครื่อง มาดูกล่องบรรจุกันก่อนครับ โดยปกติแล้วเมื่อเราแกะกล่องนำเครื่องและอุปกรณ์ต่างๆ ออกมา เรามักจะไม่ได้สนใจมันอีก อาจจะสนใจอีกทีก็ต้องที่เราคิดจะขายต่อนั่นละครับ สำหรับกล่องบรรจุ iMi i9 มีชื่อเรียกว่า “iMi Magic Box” ที่มาพร้อมคุณสมบัติของการเป็นพาวเวอร์แบงค์, เป็นลำโพงสำหรับฟังเพลงผ่านการเชื่อมต่อกับบลูทูธ อีกทั้งยังมีลูกเล่นเป็นไฟ LED ที่ค่อยสลับสีเปลี่ยนไปมาให้เกิดสีสันสวยงาม สะดุดตา ด้วยคุณสมบัตินี้เองครับที่ทำให้กล่องชิ้นนี้ถูกเรียกว่า Magic Box

มาถึงตัวเครื่อง iMi Mi9 กันต่อเลยครับ ต้องบอกว่าการรีแบรนด์ของ iMi นำมาซึ่งภาพลักษณ์ใหม่ๆ ของฟีเจอร์โฟน ซึ่ง iMi i9 มีดีไซน์ที่ค่อนข้างเพรียวบาง ใช้กระจกเป็นวัสดุหลัก ขอบโค้งที่ด้านข้าง มีสีสันที่ชวนให้สัมผัส ฉีกกรอบมือถือแบบมีปุ่มกดที่เราเคยรู้จัก

สไตล์ฟีเจอร์โฟน แน่นอนว่าต้องมีปุ่มกด ซึ่ง iMi i9 ลักษณะปุ่มจะเรียบเสมือนเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง ง่ายต่อการกดที่ไม่ต้องให้นิ้วออกแรงนัก เรียกได้ว่าเสมือนการกดอยู่บนหน้าจอทัชสกรีนของสมาร์ทโฟน มีปุ่มบังคับทิศทาง และจุด 3 จุดทั้งซ้ายและขวา คอยทำหน้าที่เป็นปุ่มตกลงและย้อนกลับ ไม่มีปุ่ม OK อยู่ตรงกลาง นอกจากนี้ปุ่มกดยังมีเรืองแสงในตัว หากใช้ในที่มืดก็ยังมองเห็นได้สบายๆ

ตัวเครื่องด้านหลังจะเป็นตำแหน่งโลโก้ใหม่ของ iMi พร้อมด้วยกล้องหลังความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล และแฟลช LED สำหรับถ่ายขำๆ ได้

จุดขายหลักของ iMi i9 ไม่ใช่แค่ดีไซน์หรือ iMi Magic Box เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคุณสมบัติที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็น “มือถือเครื่องที่สอง” สำหรับคนใช้สมาร์ทโฟนด้วย การใช้งานนั่นง่ายมาก เพียงเปิดบลูทูธของ iMi i9 กับสมาร์ทโฟนเครื่องหลักและทำการเชื่อมต่อ เมื่อซิงค์กันเสร็จเรียบร้อย เมื่อมีสายเรียกเข้าจะปรากฎการแจ้งเตือนพร้อมกันทั้งสองเครื่อง โดยเราสามารถหยิบ iMi i9 ขึ้นมาเพื่อรับสายหรือวางสายได้ แม้ในขณะนั้นจะไม่ได้ซิมการ์ดอยู่ก็ตาม

นอกจากการรับและวางสายแล้ว เรายังสามารถซิงค์รายชื่อจากสมาร์ทโฟนมาแสดงใน iMi i9 ได้ด้วย รวมทั้งเป็นตัวควบคุมเพลงในสมาร์ทโฟน หรือเป็นปุ่มกดชัตเตอร์เพื่อสั่งให้สมาร์ทโฟนถ่ายภาพก็ทำได้เช่นกัน

และสำหรับใครที่ต้องการฟังวิทยุ ใน iMi i9 มีบริการนี้ติดตั้งมาให้แบบเสร็จสรรพ

สรุปภาพรวมหลังการใช้งาน iMi i9

iMi i9 มีดีที่ตัวเองอยู่แล้วครับ อย่างที่บอกไปเมื่อตอนต้นครับว่าเป็นการนำมาซึ่งภาพลักษณ์ใหม่ๆ ของฟีเจอร์โฟน และสำหรับผมเองคิดว่ามันมีผลต่อความรู้สึกสำหรับคนที่คิดถึงยุคเก่าๆ นะ ในยุคที่หลายคนยังไม่ก้มหน้าก้มตาเล่นสมาร์ทโฟน มีแค่หยิบมือถือขึ้นมาเพื่อรับสายโทรเข้า-โทรออก รับส่ง SMS เท่านั้น ซึ่งใครที่คิดว่าอยากย้อนเวลาเพื่อตามหาความรู้สึกเก่าๆ iMi i9 เป็นทางเลือกสำหรับคุณครับ