มือถือหรือสมาร์ทโฟนทุกวันนี้เรียกได้ว่ามีตัวเลือกมากมายให้เราได้ลองหาซื้อกันไปใช้งาน จะเป็นแบรนด์จากอเมริกา, จีน, ไต้หวัน หรือเกาหลีใต้ ต่างมีจุดเด่น จุดขาย และราคาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งท้ายสุดแล้วการตัดสินใจเลือกซื้ออาจไม่ใช่ในเรื่องของสเปคกับราคาเพียงเท่านี้ แต่ยังรวมไปถึงความรู้สึก ความชอบส่วนตัวมาเป็นประกอบการตัดสินใจด้วย
เริ่มปี 2017 เชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่หลายๆ คนคิดอยากเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ อยากลองแบรนด์ใหม่ๆ ซึ่ง Lenovo ประเทศไทยได้มีการนำ Lenovo K6 Series ประกอบไปด้วย K6 Note และ K6 Power เข้ามาขายในบ้านเราเป็นครั้งแรก และในครั้งนี้เองแอดมิน Comtoday (www.aripfan.com) จะพาไปรู้จักกับ “Lenovo K6 Power” จะมีความน่าสนใจแค่ไหนไปติดตามกันครับ
Lenovo K6 Power สเปค มีดังนี้
– ตัวเครื่องขนาดความบาง 9.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 145 กรัม
– หน้าจอ IPS LCD ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล)
– ใช้งานได้ 2 ซิม แบบ Nano SIM
– Android 6.0.1 Marshmallow ครอบด้วย Vibe UI
– ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 430 ประเภท Octa-Core 64-bit ความเร็ว 1.4GHz
– หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 505
– แรม 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB, รองรับ microSD Card ความจุสูงสุด 128GB
– กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มาพร้อมระบบโฟกัสภาพ PDAF (Phase Detection Autofocus)
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
– รองรับสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มด้านหลัง
– พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB 2.0
– สนับนุนการเชื่อมต่อ Cat. 4 LTE support; 802.11 a/g/b/n, dual band Wi-Fi 802.11n, Bluetooth 4.2, GPS และ FM Radio
– ระบบเสียง Dolby Aymos
– แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh
การออกแบบ
Lenovo K6 Power ใช้โลหะกับกระจกเป็นวัสดุหลักตามสมัยนิยม เน้นความเรียบง่าย สวยงาม ไม่หวือหวา ตัวเครื่องค่อนข้างหนา แต่ในการผสมผสานระหว่างขนาดหน้าจอและความหนากลับให้ความลงตัว กะชับยึดเกาะกับมือได้ดี
ด้านหน้าครอบด้วยกระจกที่มีคุณสมบัติกันรอยขีดข่วน เหนือหน้าจอเป็นลำโพงสนทนา, กล้องหน้า, Proximity Sensor ที่คอยป้องการการทำงานต่างๆ เองในขณะอยู่ในกระเป๋า ส่วนล่างของหน้าจอเป็นปุ่มควบคุม (recent app, โฮม, ย้อนกลับ) ไม่เรืองแสงเมื่อใช้งาน
ด้านขวาของเครื่องเป็นตำแหน่งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง กับปุ่มพาวเวอร์ ตอบสนองกับการกดได้ดี ด้านซ้ายเป็นถาดใส่ซิมที่รองรับซิมประเภท Nano SIM กับ microSD card
ด้านบนเป็น microUSB 2.0 ใช้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และรับส่งข้อมูล กับรูต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ขณะที่ด้านล่างสุดเป็นรูไมโครโฟนขนาดจิ๋ว
และด้านหลังไล่จากด้านบนลงมาจะเป็นรูไมโครโฟนจิ๋วตัวที่สอง,กล้องหลัง, แฟลช LED, เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และลำโพงซ้าย-ขวา แต่ลำโพงในลักษณะอาจทำให้คุณภาพเสียงลดลงเมื่อวางเครื่องในแนวนอน
การทดสอบเมนูต่างๆ
ซอฟต์แวร์หลักเป็นระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย Vibe UI จาก Lenovo ซึ่งรูปแบบการเข้าถึงแอพฯ และเมนูการตั้งค่าทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน โดยนอกเหนือจากแอพฯ พื้นฐานของ Google แล้ว ยังมีแอพฯ จาก Lenovo แทรกมาบ้างเพียงเล็กน้อย ซึ่งในภาพรวมแล้วไม่ได้ใช้พื้นที่หน่วยความจำภายในมากเท่าใดนัก
เมนูการใช้งานต่างๆ มีหลายตัวที่เป็นประโยชน์ และบางตัวที่เราอาจแทบไม่ได้ใช้มันในชีวิตจริง แต่จะขอบอกเล่าไว้เป็นความรู้กันคร่าวๆ เช่น
– เมนู “การแสดงผล” ที่ภายในจะย่อยออกเป็นเมนูอื่นๆ อีก ซึ่งใครที่ต้องการปรับแสง ปรับสี วอลเปเปอร์ ขนาดตัวอักษร ไปจนถึงการปรับความสว่างให้รองรับการใช้งานในตอนกลางคืน สามารถเข้ามากำหนดค่าได้ที่นี่
– เมนู “เสียงเรียกเข้าและเสียง” เป็นส่วนของการกำหนดริงโทน ความดัง ของทั้งซิม 1 และซิม 2 ตลอดจนการกำหนดลักษณะเสียงด้านความบันเทิงผ่าน Dolby Atmos
– เมนู “คุณลักษณะ” ภายในเมนูที่ว่านี้จะย่อยออกเป็นอีกหลายเมนู อาทิ เพิ่มความสว่างหน้าจอ เพียงแตะที่หน้าจอสองครั้ง, การถ่ายภาพโดยใช้ลายนิ้วมือ (แตะที่ปุ่มสแกนลายนิ้วเมื่อกำลังจะถ่ายภาพ), สลับโหมด VR ใช้คู่กับแว่นตา VR เท่านั้น, แอพคู่ ตัวเลือกที่ทำให้ copy บางแอพฯ ได้ เพื่อผูัใช้บางคนที่จำเป็นต้องใช้งาน 2 บัญชีพร้อมกัน ใช้กับ Facebook ได้ด้วย เป็นต้น
– เมนู “ระบบจัดการพลังงาน” ตัวช่วยเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ ซึ่งหากแบตเตอรี่ใกล้จะหมด เราสามารถเปิดการประหยัดพลังงานขั้นสูงได้ หรือเรียกใช้จาก Notification Center จะสะดวกกว่า โดยโหมดนี้จะตัดระบบจากภาพสีเป็นขาวดำ พร้อมจำกัดการใช้งานเหลือที่จำเป็นเพียงการโทรและส่งข้อความเท่านั้น สามารถยืดอายุการใช้งานไปได้อีกหลายชั่วโมง
ความบันเทิง
ตัวอย่างของการใช้งาน Lenovo K6 Power กับการเล่น Seven Knight ภาพที่แสดงออกมาค่อนข้างให้ความชัดเจน ให้ความลื่นในระหว่างเล่น แต่การเล่นไปสักระยะเครื่องจะอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ครับ เพราะหลังจากเลิกเล่นก็จะกลับเป็นปกติ ในเรื่องของเสียงนั้นการทำงานของระบบ Dolby Atmos ถ่ายทอดเสียงได้ชัดเจน มีความดังมากและเสียงไม่แตกแม้จะเปิดในระดับสุดก็ตาม
กล้องถ่ายภาพ
การเปิดใช้กล้องและการเข้าถึงโหมดต่างๆ ทำได้ง่าย กล้องหลังให้ความละเอียดมาถึง 16 ล้านพิกเซล ตัวเลือกมีมาให้ใช้พอสมควร มีโหมดถ่ายภาพกลางคืนให้เลือกถึง 4 โหมด มีโหมดโปรสำหรับคนชอบปรับแต่งก่อนถ่ายภาพ อีกทั้งยังมีโหมด “Smart” ตัวช่วยในการถ่ายภาพที่จะคล้ายกับ Lenovo Vibe Shot คอยให้คำแนะนำเรื่องของตำแหน่งภาพที่ต้องการถ่าย ระยะที่เหมาะสม เพื่อให้ภาพถ่ายออกมาดูสวยงามมากที่สุด
UI จากกล้องหลัง
โหมดถ่ายภาพกลางคืนมีให้เลือกถึง 4 แบบ
ตัวอย่างของโหมด Smart
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีโหมด Beauty มาให้ สามารถกำหนดให้เปิดอัตโนมัติหรือเลือกเองได้ถึง 7 ระดับในแบบเรียลไทม์ มีเมนูเติมแสงให้ใบหน้าอมชมพูหรือสีออกโทนส้ม, ปรับคุณภาพของภาพให้สูงถึง Ultra HD, โหมด Snap เพื่อใช้สัญญาณมือในการสั่งถ่ายภาพ และโหมดมิเรอร์
UI ของกล้องหน้า
การถ่ายภาพด้วยกล้องหลังพบว่าการโฟกัสอัตโนมัติทำได้รวดเร็ว เช่นเดียวกับการบันทึกภาพลงในหน่วยความจำ สีของภาพถ่ายลักษณะจะออกนวลๆ เล็กน้อย ให้ความสมจริงค่อนข้างดี
การถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าพบว่าการโฟกัสอัตโนมัติทำได้รวดเร็ว เช่นเดียวกับการบันทึกภาพลงในหน่วยความจำ สีของภาพถ่ายลักษณะจะออกนวลๆ เล็กน้อย ให้ความสมจริงค่อนข้างดี ขณะที่กล้องหน้าการโฟกัสที่ใบหน้ายังทำได้ช้าอยู่เล็กน้อย แต่โดยรวมของการเซลฟี่เป็นที่พอใจครับ
ตัวอย่างภาพถ่าย
แบตเตอรี่
Lenovo K6 Power ให้แบตเตอรี่ความจุมา 4000mAh นับว่าเยอะสำหรับสมาร์ทโฟนในระดับนี้ เมื่ออยู่ในโหมดสแตนบายด์ สามารถอยู่ในนาน 2 วันได้โดยไม่ต้องชาร์จ ในเชิงการใช้งานจริงก็ต้องยอมรับว่าอาจไม่อึดอย่างที่คาดหวังไว้นัก และน่าเสียดายที่ไม่ที่เทคโนโลยี Quick Charge หรือชาร์จเร็วมาให้ด้วย
สรุปภาพรวม รีวิว Lenovo K6 Power
ในด้านการออกแบบนับว่าให้ความสะดวกสบายในการหยิบถือ ด้วยขนาดตัวเครื่องที่มีความหนาทำให้เราไม่ต้องพะวงนักว่าเครื่องจะหลุดมือง่าย ขณะที่การใช้ถ่ายภาพและการใช้งานเพื่อความบันเทิงทำได้ค่อนดีเลย แต่อาจดูจะด้อยลงไปเล็กน้อยเมื่อแบตเตอรี่ไม่อึดอย่างที่หวังนัก โดยภาพรวมแล้ว Lenovo K6 Power เป็นทางเลือกที่ให้ความทั้งความกะทัดรัดในการใช้งาน ใครก็ตามที่สนใจหาซื้อไปลองใช้หรือซื้อให้คนอื่นๆ ที่เพิ่งหันมาใช้สมาร์ทโฟน ลองเลือกรุ่นนี้มาใช้ดูครับ กับราคา 6,990 บาท
ขอขอบคุณ Lenovo ประเทศไทย สำหรับ Lenovo K6 Power ในการรีวิวครั้งนี้ครับ
