อาจจะเรียกว่าเป็นแท็บเล็ตเรือธงจากฝั่ง Samsung ในปี 2015 นี้ก็ว่าได้ สำหรับ Samsung Galaxy Tab S2 ที่เปิดตัวพร้อมกันสองขนาด ได้แก่ 8 นิ้ว กับ 9.7 นิ้ว ซึ่งแอดมิน CK มีโอกาสได้รับรุ่น 9.7 นิ้ว มารีวิว และจะมาเล่าสู่กันฟังกับประสบการณ์หลังใช้แท็บเล็ตโทรได้ สุดบางให้ได้ชมกันครับ
เริ่มต้นด้วยสเปคของ Samsung Galaxy Tab S2 9.7 นิ้ว มีดังนี้ครับ
– หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 9.7 นิ้ว (ความละเอียด 2,048 x 1,536 พิกเซล 264ppi)
– ตัวเครื่องบาง 5.6 มิลลิเมตร น้ำหนัก 392 กรัม
– ใส่ซิมได้ ประเภท NanoSIM
– รัน Android 5.0.2 Lollipop
– ใช้ชิปประมวลผลประเภท Octa-Core (Quad-core 1.9 GHz และ Quad-core 1.3 GHz)
– แรม 3GB, พื้นเก็บข้อมูลภายใน 32GB, ใส่ microSD card ได้ ความจุสูงสุด 128GB
– กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซล
– มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
– สนับสนุนการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.1, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, microUSB 2.0 (MHL TV-out)
– แบตเตอรี่ความจุ 5,870mAh
สัมผัสตัวเครื่องครั้งแรกบอกเลยว่าเจ้า Tab S2 บ๊างบาง จนแอบคิดเลยว่าพวกฮาร์ดแวร์ข้างในใส่กันเข้าไปได้ยังไง บางแล้วยังไม่พอ น้ำหนักยังเบาอีก หยิบขึ้นมามือเดียวได้สบายๆ แต่ด้วยขนาด 9.7 นิ้ว ถ้าถือไม่แน่นก็กลัวจะหลุดมือเช่นกัน เรื่องนี้ใครที่ซื้อใช้ไปแล้วก็ระวังกันนิดนึงล่ะกันครับ
ดีไซน์ตัวเครื่องเปลี่ยนแปลงจาก Tab S ตัวแรกที่เปิดตัวเมื่อปี 2014 ไปพอสมควรครับ เจ้า Tab S2 ตัวนี้ใช้พลาสติกแทบทั้งเครื่องเช่นเดิม มีอะลูมิเนียมมาประกอบบริเวณขอบเล็กน้อยเท่านั้น โดยรวมแล้วการออกแบบดูเรียบง่ายกว่ารุ่นก่อนมาก ไม่มีอะไรที่หวือหวา
ปุ่มเปิด-ปิดเครื่องหรือพาวเวอร์, ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง, ช่องใส่ซิม และ microSD card อยู่ด้านขวาของเครื่องเช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า ส่วนท้ายมีการเพิ่มลำโพงให้มีทั้งซ้ายและขวา
จากหน้าจอขนาด 9.7 นิ้ว และรูปลักษณ์ตัวเครื่องเมื่อมองเผินๆ ก็ไม่แปลกที่จะถูกแซวเล่นๆ ว่านี่มัน iPad ชัดๆ แต่ก็อย่าไปคิดมากเลยครับ คุณสมบัติของหน้าจอมาพร้อมกับเทคโนโลยี Super AMOLED ที่ขึ้นชื่อว่าช่วยปรับสีสันของการแสดงผลให้มีความสดใสยิ่งขึ้น และด้วยความหวังที่ว่า Tab S2 จะมีความละเอียดที่ไม่แตกต่างหรือสูงกว่า QHDของ Tab S ตัวแรก ยอมรับผิดคาดเลยครับ เพราะเจ้ารุ่นใหม่นี้ Samsung กลับลดความละเอียดหน้าจอลงซะอย่างงั้น
แม้จะเจอเรื่องที่ผิดคาด แต่อย่างน้อยประสิทธิภาพเรื่องการดูคลิป YouTube ในความละเอียด 720p ขึ้นไป รวมไปถึงการแสดงภาพจากการเล่นเกมก็ยังให้ความชัดเจนอยู่ในระดับที่ดี
นอกจากความบางแล้ว จุดเด่นของ Tab S2 9.7 นิ้ว ตัวนี้ยังสามารถใส่ซิมการ์ด ประเภท NanoSIM ได้ ทำให้ใช้โทรหรือว่าเล่นเน็ตผ่าน 3G ได้
อินเตอร์เฟซภายในเป็นการผสมผสานระว่าง Android 5.0.2 Lollipop กับ TouchWiz ที่พัฒนาขึ้นโดย Samsung อันเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่แสดงตัวตนได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังมีแอพฯ SideSync ที่จะจำลองหน้าจอจากแท็บเล็ตไปแสดงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือ Mac โดยเมื่อต่อสาย USB เข้ากับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คหรือ Mac ที่มีโปรแกรม SideSync และเปิดใช้แอพฯ SideSync จะปรากฏหน้าโฮมสกรีนของแท็บเล็ตบนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือ Mac ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้เมาส์ Drag and Drop ไฟล์ข้อมูลได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมกับใช้การ Copy and Paste ข้อความจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไปที่แอพพลิเคชั่นบนแท็บเล็ตได้เช่นกัน หรือจะใช้ควบคุมหรือจัดการอื่นๆ บนแท็บเล็ตผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือ Mac ก็สามารถทำได้
เรื่องกล้องอาจเป็นเรื่องที่ชัดเจนว่า Tab S2 ตัวนี้ ไม่ได้ถูกคาดหวังว่าจะต้องโดดเด่นเรื่องการถ่ายภาพ ทำให้ความละเอียดไม่ได้ดูเด่นกว่าค่ายอื่นๆ แต่ก็แฝงลูกเล่น การปรับตั้งค่าต่างๆ ได้คล้ายกับตัว S6 หรือ Note 5
โหมดจากกล้องหลัง
โดยภาพรวมของ Samsung Galaxy Tab S2 9.7 นิ้ว ขอแบ่งเป็นดังนี้ครับ
ข้อดี
1. ทึ่งในความบาง แม้ดีไซน์จะดูไม่หวือหวา
2. มีน้ำหนักเบา ถือมือเดียวได้
3. เปิดแอพฯ ได้หลายหน้าจอพร้อมกัน รองรับการใช้งานที่คล้ายโน้ตบุ๊ค
4.ใส่ซิมได้ โทรออกได้ ใช้เน็ต 3G พกพาไปใช้งานนอกบ้านได้
ข้อเสีย
1. ลดความละเอียดของหน้าจอลง ให้ความรู้สึกถึงความจืดชืด
2. ถอดฝาหลังไม่ได้
3. ไม่มีฟีเจอร์อะไรใหม่ หรือโดดเด่น
สรุปแล้วน่าซื้อมั้ย ? …
แม้จะปรับลดความละเอียดหน้าจอลงจากรุ่นก่อนหน้านี้ แต่ Tab S2 9.7 นิ้ว ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นแท็บเล็ตรุ่นใหม่ของ Samsung ประจำปี 2015 ที่มาพร้อมกับความบางเบา ปรับคุณสมบัติของความเร็วและแรงด้วยชิปประมวลผลรุ่นใหม่ ประกอบกับการใช้งานที่สามารถใส่ซิม เล่นเน็ต 3G หรือจะใช้เป็นโทรศัพท์ก็ได้ จึงเป็นจุดที่ Tab S2 9.7 นิ้ว เหนือกว่า iPad
ฉะนั้นแล้วหากคุณต้องการแท็บเล็ตที่ทั้งโทร ทั้งเล่นเกม ดูหนัง ได้ ทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ได้ง่ายๆ Samsung Galaxy Tab S2 9.7 นิ้ว นับว่าก็เป็นทางเลือกลำดับต้นๆ ที่น่าซื้อไม่เบา ในราคา 18,900 บาท ครับ ^^
